เวอร์จิล ฟานไดจ์ค
Type | Data Player |
---|---|
Name | เวอร์จิล ฟานไดจ์ค |
Eng Name | Virgil van Dijk |
Type | ผู้เล่น |
Country | Netherlands |
Gender | male |
Date of Birth | 1991-07-08 |
Height | 193 |
Weight | 92 |
Position | defender |
Team | Number | Join | Out |
---|---|---|---|
โกรนิงเก้น | 4 | 2011-07-01 | 2013-06-30 |
เซลติก | 5 | 2013-07-01 | 2015-09-01 |
เซาแธมป์ตัน | 17 | 2015-09-01 | 2017-12-31 |
ฮอลแลนด์ | 4 | 0000-00-00 | 0000-00-00 |
ลิเวอร์พูล | 4 | 2018-01-01 | 0000-00-00 |
ประวัติ : เวอร์จิล ฟานไดจ์ค
เวอร์จิล ฟานไดจ์ค กองหลังที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งระดับต้นๆของโลกลูกหนังในยุคปัจจุบัน ชื่ออังกฤษคือ Virgil van Dijk เกิดวันที่ 8 กรกฏาคม 1991 ในเมืองเบรด้า ประเทศฮอลแลนด์ มีความสูง 193 เซนติเมตร รูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง โดนเด่นทั้งบอลบนพื้นและกลางอากาศ ตำแหน่งที่เล่นคือกองหลังตัวกลาง ถนัดเท้าขวา ฟานไดจ์ค เริ่มเข้าสู่วงการนักฟุตบอลในปี 2009 กับทีม วิลเล่ม ทเว ปีต่อมาโดน โกรนิงเก้น ไปดึงตัวไปจากการเห็นแววที่สดใสของแข้งคนนี้ และเพียงปีเดียวเท่านั้นก็สามารถผลักดันตัวเองขึ้นสู่ชุดหลักของสโมสรได้สำเร็จ ด้วยความสามารถที่ก้าวกระโดด พร้อมกับร่างกายที่สูงใหญ่ จนถึงสู่ฐานะนักบอลอาชีพในปี 2011 อย่างรวดเร็ว เกมเปิดตัวเกิดขึ้นวันที่ 1 พฤษภาคม เจอกับ ADO Den Haag วันนี้ทีมชนะ 4-2 จากนั้นกราฟความเก่งของเขาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
จนไปเข้าตาขาใหญ่ของสก็อตแลนด์ เซลติก จัดการคว้าตัวมาคุมแนวรับ ในปี 2013 วันที่ 2 มิถุนายน ค่าตัว 2.6 ล้านปอนด์ ย้ายเข้ามาปุ๊ปก็โดดเด่นทันที เป็นหัวใจแนวรับของทีมอย่างองอาจ ทั้งยังมีทีเด็ดลูกนิ่งที่พร้อมขึ้นไปทำประตูได้ทุกเมื่อ พัฒนาของ ฟานไดจ์ค ในขณะนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน
หลังจากพาเซลติกคว้าความสำเร็จได้เพียง 2 ฤดูกาล ก็ย้ายข้ามฟากมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ เซาแธมป์ตัน ทุ่ม 13 ล้านปอนด์ดึงเข้าสู่ทีม วันที่ 15 กันยายน 2015 จากการคุมแนวรับที่เหนียวแน่น การอ่านเกมที่คมกริบ รวมถึงความนิ่งในตัวเอง ชื่อของ ฟานไดจ์ค ได้รับการหมายตาจากหลายทีมในพรีเมียร์ลีกทันที จนกระทั่ง ลิเวอร์พูล ทุ่มค่าตัวสถิติโลกในตอนนี้ 75 ล้านปอนด์ดึงเข้าสู่แอนฟิลด์ในวันที่ 27 ธันวาคม 2017 แต่ย้ายเข้าจริงๆคือ 1 มกราคม 2018 ในวันตลาดเปิด
การย้ายมาอยู่กับหงส์แดง คือตำนานบทสำคัญในชีวิตของ ฟานไดจ์ค เมื่อเข้ามายกระดับแผงรับที่อ่อนแอของทีมได้อย่างทันตาเห็น เป็นกำแพงที่ยากหากคู่แข่งต้องการเจาะเข้าไปทำประตู นัดแรกที่ประเดิมให้กับทีมคือวันเจอคู่ปรับ เอฟเวอร์ตัน และตัวเขาเป็นคนทำประตูชัยได้อีกด้วย จากการพาทีมฟอร์มดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ตัวเขาก็คว้านักเตะยอดเยี่ยมจากหลายสถาบันในช่วงฤดูกาล 2018-2019 จนเกือบถึงบัลลงดอร์เมื่อเข้าเป็นที่ 2 เป็นนักเตะที่ระดับปรากฏการณ์ที่เข้ามาช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝันร้ายอย่างแท้จริง สำหรับทีมชาติฮอลแลนด์ ปัจจุบันเขาคือกัปตันทีมที่แข็งแกร่งของทัพอัศวินสีส้ม รับใช้ชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2015 ( Updated : 6-4-2020 )