TDEDKICK.COM

บาเลนเซีย

( Valencia )


website : http://www.valenciacf.es
No. Name Type Join Out
- Ruben Baraja โค้ช 2023-02-14 -
20 ดิมิทรี ฟูลกิเย่ร์ ผู้เล่น 2021-08-30 -
14 โฆเซ่ กาย่า ผู้เล่น 2014-07-01 -
1 ฆวาเม่ โดเมเนก ผู้เล่น 2015-07-01 -
4 มุคตาร์ เดียกาบี้ ผู้เล่น 2018-07-01 -
7943 ซามูเอล กาสตีเยโฆ่ ผู้เล่น 2022-07-13 -
17 โรมัน ยาเร็มชุค ผู้เล่น 2023-09-01 2024-06-30
19 เซลิม อมัลลาห์ ผู้เล่น 2023-08-29 2024-06-30
18 เปเปลู ผู้เล่น 2023-07-08 -
7 เซร์กี้ กานอส ผู้เล่น 2023-08-20 -
9830 อีเรย์ คือมาร์ต ผู้เล่น 2022-01-25 -
10 Andre Almeida ผู้เล่น 2022-08-25 -
13 กริสเตียน รีเบโร ผู้เล่น 2018-07-01 -
9 อูโก้ ดูโร่ ผู้เล่น 2022-07-01 -
25 Giorgi Mamardashvili ผู้เล่น 2022-01-01 -
12 เธียร์รี่ กอร์เรยอา ผู้เล่น 2019-09-02 -
15 Cenk Ozkacar ผู้เล่น 2023-07-01 -
27 ปาโบล โกซัลเบซ ผู้เล่น 2021-07-01 -
6 Hugo Guillamon ผู้เล่น 2018-07-01 -
22 Alberto Mari ผู้เล่น 2023-07-26 -
39 Marco Camus ผู้เล่น 2023-08-23 -
21 Jesus Vazquez ผู้เล่น 2022-07-01 -
30 Hugo Gonzalez ผู้เล่น - -
11 Peter Gonzalez ผู้เล่น 2024-01-31 2024-06-30
8 Javier Guerra ผู้เล่น 2023-07-01 -
23 Fran Perez ผู้เล่น 2022-07-01 -
16 Diego Lopez ผู้เล่น 2023-07-01 -
3 Cristhian Mosquera ผู้เล่น 2023-07-01 -
34 Yarek Gasiorowski ผู้เล่น - -
47 David Otorbi Ejededawe ผู้เล่น - -
Tournament Join Out
LaLiga 2023-08-11 2024-05-26
Copa del Rey 2023-10-30 2024-04-06

ประวัติ : บาเลนเซีย

บาเลนเซีย (Valencia) ชื่อเต็ม (Valencia Club de Futbol) หรือเรียกกันในนามฉายาว่า “ไอ้ค้างคาว” อยู่ที่เมืองบาเลนเซีย ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1919 และได้รับอนุมัติให้เป็นสโมสรฟุตบอลอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1919 โดยมี ออคตาบิโอ ออกุสโต้ มีเลโก้ ดิอาซ (Octavio Augusto Milego Diaz) เป็นประธานของสโมสรคนแรก และสโมสรก็ได้ลงแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 โดนเกมนั้นสโมสรสามารถเอาชนะ คิมนัสตีโก ไปได้ 1 ประตูต่อ 0 ต่อมาสโมสรได้ย้ายมาเล่นที่สนาม เมสตายา ซึ่งเป็นสนามเหย้าของตัวเอง ในช่วงปี ค.ศ. 1923 บาเลนเซียคว้าแชมป์ระดับภูมิภาคได้ เลยได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันโกปาเดลเรย์เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร หลังจากสงครามกลางเมืองสเปนยุติลง บาเลนเซียก็คว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ ในปี 1942 และช่วงเวลานั้น บาเลนเซีย ก็คว้าแชมป์ลาลีก้าได้อีก 3 สมัยในระยะเวลาไม่กี่ปี ในปี ค.ศ. 1941-1942,1943-1944 และ 1946-1947 ในช่วงปี ค.ศ. 1952-1953 สโมสรจบในฐานะรองแชมป์ลีก ต่อมาอีก 1 ปี สโมสรก็คว้าแชมป์โกปาเดลเรย์เพิ่มอีก 1 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1954 บาเลนเซียคว้าแชมป์ สแปนิช คัพ มาครองได้เป็นหนที่ 2 หลังจากถล่มบาร์เซโลน่าไป 3-0 และในปี ค.ศ. 1962 สโมสรก็ประสบความสำเร็จในระดับทวีปเป็นครั้งแรกด้วยการคว้าแชมป์ อินเตอร์ ซิตี้ แฟร์ส คัพ ยังก็รักษาแชมป์ไว้ได้อีกครั้งในปีต่อมา หลังจากนั้นสโมสรก็ได้ตัดสินใจดึงตำนานแข้งของ เรอัล มาดริด อย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม พร้อมกับพาบาเลนเซียคว้าแชมป์ลาลีก้าได้ด้วย หลังจากได้แชมป์ก็ได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขัน ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรก แต่ก็จบลงที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในปีนั้นสโมสรยังสามารถคว้าดับเบิ้ลรองแชมป์ได้หลังจากตาม เรอัล มาดริด ในลีกอยู่ 2 คะแนน และแพ้ต่อ แอตเลติโก้ มาดริด ในนัดชิง สแปนิช คัพ ในช่วงปี ค.ศ. 1979 บาเลนเซียกลับมาคว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ได้อีกครั้ง ถัดมาอีก 1 ปี บาเลนเซีย คว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ เหนือยอดทีมจากอังกฤษอย่างอาร์เซน่อล ช่วงปี 1983 สโมสรได้ทำการแต่งตั้ง มิลยาน มิลยานิช เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม แต่แล้วผลงานก็ล้อเหลว เกือบจะพาบาเลนเซียตกชั้น จนต้องดึง โกลโด้ อากีร์เร่ เข้ามาเสียบแทน แต่ยังดีที่กู้สถานการณ์กลับมาได้ ทำให้สโมสรหลุดรอดตกชั้นอย่างหวุดหวิด ช่วงเวลา 2 ปีต่อมา สโมสรเกิดวิกฤตในด้านปัญหาทางการเงินที่เป็นหนี้สิน

จากการบริหารงานของ บิเซนเต้ ตอร์โม่ จนท้ายที่สุดสโมสรก็ตกชั้นไป หลังจากจบซีซั่นในปี ค.ศ. 1985-1986 ต่อมา อาร์ตูโร่ ตูซอน ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสโมสรคนใหม่ พร้อมกับดึงตัว อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง ก่อนที่จะพาสโมสรคว้าแชมป์ เซกุนด้า ดิวิชั่น และเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ ในช่วงเวลาเพียงปีเดียว หลังจากนั้นก็มีการผลัดเปลี่ยนผู้จัดการทีมชื่อดังมากมายเข้ามาทำทีม ในที่สุดในปี 1999 เคลาดิโอ รานิเอรี่ ก็เข้ามาทำทีมต่อ จนสามารถคว้า บาเลนเซีย เถลิงแชมป์โกปาเดลเรย์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี แล้วเวลา 2 ปีต่อมาก็สามารถพาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ถึง 2 ครั้ง 2 คราว ภายใต้การคุมทีม เอคตอร์ คูเปร์ แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่รองแชมป์ทั้ง 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 2002 ราฟาเอล เบนิเตซ พาเตเนริเฟ่เลื่อนขั้นได้สำเร็จ ก่อนที่ทางบาเลนเซียจะดึงเข้ามาคุมทีม ในช่วงแรก ราฟาเอล เบนิเตซ เกือบจะโดนปลดเหมือนกัน หลังจากผลงาน ลุ่มๆ ดอนๆ แถมตกรอบ โกปา เดล เรย์ ด้วย เนื่องจากทำผิดกฏด้วยการส่งนักเตะลงเล่นเกินโควต้า แต่ถึงอย่างไรแล้วก็ยังได้อยู่ต่อ จากการพลิกกลับมาชนะเอสปันญ่อล และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ ราฟาเอล เบนิเตซ พาบาเลนเซียเดินหน้าจนสามารถคว้าแชมป์ลาลีก้ามาครองได้สำเร็จในรอบ 31 ปี และได้มีการซื้อนักเตะตัวเก่งเข้ามาร่วมทีมอีกหลายราย ต่อมาในปี ค.ศ. 2003-2004 ราฟาเอล เบนิเตซ ก็พา บาเลนเซีย คว้าแชมป์ได้อีก 2 รายการ ทั้งลาลีก้า และ ยูฟ่าคัพ หลังจากจบปีนั้น ราฟาเอล เบนิเตซ ก็ตัดสินใจแยกทางกับสโมสร เพื่อย้ายไปคุมทีมดังระดับแนวหน้าของปเระเทศอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล ต่อมาก็มีการหมุนเวียนผู้จัดการทีมอยุ่หลายคนทั้ง เคลาดิโอ รานิเอรี่, อันโตนิโอ โลเปซ, กิเก้ ซานเชซ ฟลอเรส, ออสการ์ เฟร์นานเดซ ก่อนจะมาถึง โรนัลด์ คูมัน

ในช่วงปลายเดือยพฤศจิกายน ปี 2007 ผลงานไม่ดีขึ้นเลย ตกไปอยู่ในอันดับที่ 15 แต่ช่วงกลางเดือนเมษายน ปี 2008 กลับมาสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะด้วยการคว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ เป็นสมัยที่ 7 แต่ถึงอย่างไรแล้วอีก 5 วันต่อมา โรนัลด์ คูมัน ก็ถูกปลด หลังจากพาบาเลนเซียพ่ายแพ้ต่อ แอธเลติก บิลเบา แบบยับเยินไป 5 ประตู 1 ต่อมาสโมสรได้แต่งตั้ง โบโร่ เข้ามาคุมทีมชั่วคราว และก็ช่วยให้สโมสรอยู่รอดปลอดภัยด้วยการจบในอันดับที่ 10 ช่วงปี ค.ศ. 2009 ออกสตาร์ทต้นฤดูกาลได้อย่างคึกคักด้วยการคว้าชัยชนะ 4 เกม จากการลงเล่นเพียง 5 เกม ภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ ต่อมาสโมสรได้ออกมาประกาศว่าเป็นหนี้สินมากมายมหาศาลถึง 400 ล้านยูโร ส่งผลให้ผลงานของสโมสรดรอปลงไปอย่างเห็นได้ชัด แล้วในที่สุดสโมสรก็ประครองตัวจนจบอันดับที่ 6 แม้ว่าปี ค.ศ. 2010 อูไน เอเมรี่ จะพาสโมสรจบในอันดับที่ 3 แต่ทางสโฒสรเองก็ต้องปล่อยนักเตะตัวเก่งอย่าง ดาบิด บีย่า และ ดาบิด ซิลบา ออกไปเพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้สินที่บานปลาย ถึงจะเสียนักเตะคนสำคัญไป แต่สโมสรก็สามารถจบในอันดับที่ 3 ได้อีก แต่แล้วก็ต้องยอมขาย ฆวน มาต้า ออกไปอีก เพื่อประคับประคองสถานะทางการเงินของสโมสร ในช่วงปี ค.ศ 2013 เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ถูกแต่งตั้งเข้ามาทำทีมต่อ แต่ก็พาบาเลนเซียตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลยตัดสินใจลาออก เพื่อรับผิดชอบ และช่วงเวลานั้นก็ได้ดึง มิโรสลาฟ ดูคิช เข้ามาแทน แล้วก็ทำการขาย โรเบร์โต้ โซลดาโด้ อีก หลังจากจบซีซั่นนั้น

ในเวลาต่อมา มิโรสลาฟ ดูคิช พาบาเลนเซียตกอับที่สุดในรอบ 15 ปี จากการชนะ 6 เกม จาก 16 เกมของฤดูกาล แล้วในที่สุดชะตาก็ขาดตามคาด ต่อมาได้ดึง ฆวน อันโตนิโอ ปิซซี่ เข้ามารับช่วงต่อ แล้วก็พาสโมสรไปจบรอบคัดเลือก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ ลิม นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ก็เข้ามาครอบครองสโมสรในช่วงซัมเมอร์ พร้อมกับแต่งตั้ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ และได้มีการดึงตัวนักเตะอย่าง อัลบาโร่ เนเกรโด้, อันเดร โกเมซ และ เอ็นโซ่ เปเรซ เข้ามาเสริมทีม ทำให้บาเลนเซียจบในอันดับที่ 4 แล้วก็ได้สิทธิทัวร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือกด้วย เริ่มต้นปี ค.ศ. 2016 ได้เพียง 13 เกมแรกเท่านั้น ทาง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ก็ถูกปลดออก หลังจากเก็บชัยชนะได้เพียง 5 เกม ก่อนที่สโมสรจะหันไปดึงตัว แกรี่ เนวิลล์ ให้เข้ามาช่วงต่อ และ แกรี่ เนวิลล์ ก็กลายเป็นผู้จัดการทีมที่แย่ที่สุดเท่าที่สโมสรมีมา คือ ชนะได้แค่ 3 เกม จากการลงแข่งขันทั้งหมด 16 เกมทุกรายการ จนต้องเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมใหม่อีกครั้ง โดยดึง ปาโก้ อาเยสตาราน มือขวาของ แกรี่ เนวิลล์ เข้าทำทีมแทน ก่อนที่จะพาบาเลนเซียจบในอันดับที่ 12 หลังจากสโมสรปล่อยตัว อันเดร โกเมซ และ ปาโก้ อัลกาเซร์ พร้อมๆกับ ชโคดราน มุสตาฟี่ ทำให้ผลงานเสียหายอย่างหนัก ด้วยการแพ้ 4 เกมติด ไม่นาน เชซาเร่ ปรันเดลลี่ ก็มาเข้าคุมแทน แต่ก็อยู่ได้เพียง 3 เดือนก็ลาออกไป เนื่องจากมีปัญหาผิดใจกับผู้บริหาร และก็ได้ดึง โบโร่ เข้ามากู้สถานการณ์อีกครั้ง ด้วยการจบในอันดับที่ 12 ในช่วงปี ค.ศ. 2018 บาเลนเซีย ได้แต่งตั้ง มาร์เซลิโน่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แล้วก็พาสโมสรประสบความสำเร็จด้วยการจบในอันดับที่ 4 เลยได้สิทธิไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง และในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 บาเลนเซียก็กลับมาคว้าแชมป์โกปาเดลเรย์อีกครั้งในรอบ 11 ปี ปัจจุบัน บาเลนเซีย อยู่ภายใต้การคุมทีมของ อัลเบิร์ต เซลาเดส (Albert Celades)

เกียรติประวัติแชมป์ทั้งหมดของ บาเลนเซีย หรือ “ไอ้ค้างคาว” : ระดับทวีปยุโรป รองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (2 ครั้ง), แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก (1 สมัย), แชมป์ อินเตอร์ ซิตีส์แฟส์คัพ (2 สมัย), แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ (2 สมัย), แชมป์ ยูฟ่าอินเตอร์โตโต้คัพ (1 สมัย) : ระดับประเทศ แชมป์ลาลีก้า (6 สมัย), แชมป์ เซกุนด้า ดิวิชั่น (2 สมัย), แชมป์โกปาเดลเรย์ (8 สมัย), แชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า (1 สมัย), แชมป์ โกปาเอบาดัวร์เต (1 สมัย) ( Updated : 19-4-2020 )

Top Goal Player