ซัสเซาโล่
( Sassuolo )
website : http://www.sassuolocalcio.it/
No. | Name | Type | Join | Out |
---|---|---|---|---|
47 | อันเดรีย คอนซิญี่ | ผู้เล่น | 2014-09-01 | - |
13 | เฟเดริโก้ เปลูโซ่ | ผู้เล่น | 2014-07-03 | - |
4 | ฟรานเชสโก้ มันญาเนลลี่ | ผู้เล่น | 2005-07-01 | - |
9 | ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ | ผู้เล่น | 2019-07-13 | - |
14 | เปโดร โอเบียง | ผู้เล่น | 2019-07-24 | - |
21 | วลัด คิริเคส | ผู้เล่น | 2020-09-01 | - |
10 | ฟิลิป ยูริซิซ | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
- | คูม่า บาบาการ์ | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
68 | เมห์ดี้ บูราเบีย | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
92 | เกรชัวร์ เดอแฟรล | ผู้เล่น | 2020-09-01 | - |
- | เฟเดริโก้ ริชชี่ | ผู้เล่น | 2017-07-01 | - |
- | เอโดอาร์โด้ กอลดานิก้า | ผู้เล่น | 2017-07-31 | - |
25 | โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ | ผู้เล่น | 2015-07-01 | - |
56 | จานลูก้า เปโกโล่ | ผู้เล่น | 2013-09-02 | - |
- | เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้ | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
5 | คาน อายฮาน | ผู้เล่น | 2020-09-01 | - |
9789 | เยเรมี่ โทลยาน | ผู้เล่น | 2019-07-11 | 2021-06-30 |
- | คริสเตียน เดลล์ออร์โก้ | ผู้เล่น | 2015-07-08 | - |
31 | จาน มาร์โก แฟร์รารี่ | ผู้เล่น | 2016-08-31 | - |
- | ลูก้า มาซซิเตลลี่ | ผู้เล่น | 2016-02-01 | - |
27 | ลูคัส ฮาราสลิน | ผู้เล่น | 2020-09-01 | - |
77 | จอร์จิออส กีเรียโกปูลอส | ผู้เล่น | 2020-09-01 | - |
- | มาร์โก ปินาโต้ | ผู้เล่น | 2018-08-15 | - |
- | ฟิลิปโป้ โรมันญ่า | ผู้เล่น | 2020-09-17 | - |
2 | มาร์ลอน ซานโตส | ผู้เล่น | 2018-08-17 | - |
8592 | มักซิม โลเปซ | ผู้เล่น | 2020-10-05 | 2021-06-30 |
73 | มานูเอล โลกาเตลลี่ | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
91 | Nicolas Schiappacasse | ผู้เล่น | 2020-10-05 | - |
7 | เฌเรมี่ โบก้า | ผู้เล่น | 2018-07-20 | - |
- | เลโอนาร์โด้ แซร์นิโกล่า | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
- | Jens Odgaard | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
- | ริคคาร์โด้ มาร์คิซซ่า | ผู้เล่น | 2017-07-13 | - |
- | นิโคลาส เปียรินี่ | ผู้เล่น | 2017-07-01 | - |
- | จิอันลูก้า สกามัคค่า | ผู้เล่น | 2017-07-01 | - |
- | เคลาด์ อัดจาปอง | ผู้เล่น | 2016-08-01 | - |
28 | จาโคโม่ ซาตาลิโน่ | ผู้เล่น | 2017-08-11 | - |
- | Andrea Meroni | ผู้เล่น | 2019-07-31 | - |
- | เอ็นริโก้ บริโญล่า | ผู้เล่น | 2018-08-02 | - |
- | โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ | โค้ช | 2018-06-13 | - |
- | ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ | ผู้เล่น | 2017-07-13 | - |
32 | จานจาโคโม มัญญานี่ | ผู้เล่น | 2018-08-07 | - |
- | มาร์โก ซาล่า | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
63 | สเตฟาโน่ ตูราติ | ผู้เล่น | 2019-10-01 | - |
8534 | อาเหม็ด จูเนียร์ ตราโอเร่ | ผู้เล่น | 2019-07-12 | 2021-06-30 |
6 | โรเจริโอ้ | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
17 | เมิร์ต เมิลเดอร์ | ผู้เล่น | 2019-08-20 | - |
18 | จาโคโม รัสปาโดรี่ | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
64 | อเลสซานโดร รุสโซ่ | ผู้เล่น | 2019-07-26 | - |
44 | อันเดรีย กีออน | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
- | ราฟฟาเอล ซิเลีย | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
35 | Stefano Piccinini | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
30 | Brian Oddei | ผู้เล่น | - | - |
70 | Alessandro Mercati | ผู้เล่น | 2020-01-01 | - |
28 | Raul Steau | ผู้เล่น | - | - |
71 | Samuele Vitale | ผู้เล่น | - | - |
26 | Isaac Karamoko | ผู้เล่น | - | - |
Tournament | Join | Out |
---|---|---|
Serie A | 2020-09-19 | 2021-05-23 |
Coppa Italia | 2020-09-21 | 2021-05-19 |
ประวัติ : ซัสเซาโล่
เปิดแฟ้มประวัติย้อนกลับไปเจาะลึกถึงเรื่องราวของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อ ซัสซูโอโล หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า (Unione Sportiva Sassuolo Calcio) เป็นทีมฟุตบอลที่ปัจจุบันยังคงเล่นอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี หรือที่เราเรียกกันว่า กัลโช่ เซเรีย อา เดิมทีจุดกำเนิดของทีมฟุตบอลแห่งนี้เริ่มต้นในปี 1920 ซึ่งพวกเขาไม่ได้เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่อะไรเหมือนกับสโมสรใหญ่ๆในอิตาลี แต่ชื่อนี้ก็พิสูจน์ให้คนทั้งในอิตาลีและยุโรปได้เห็นแล้วว่าพวกเขาก็สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นศัตรูที่เล่นอยู่ในเวทีลูกหนังลีกสูงสุดของประเทศได้ ซัสซูโอโล่ ใช้เวลาไปกับการลงเล่นในอยู่ในดิวิชั่นสมัครเล่นมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนกระทั่งในปี 1968 จึงสามารถขยับเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่สังเวียน กัลโช่ เซเรีย D และในช่วงเวลาหลายปีที่พวกเขายังคงวนเวียนอยู่ใรลีกระดับล่างของรายการฟุตบอลระดับอาชีพในช่วงปี 1974 สโมสรก็ได้ตัดสินใจรวมตัวกับสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งในระดับท้องถิ่นเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับทีมโดยพวกเขาก็ใช้ชื่อในการรวมทีมในปีนั้นว่า US Sussuolo Calcio จนผ่านมาครบรอบ 10 ปีพอดีที่ใช้ชื่อสโมสรนี้มาพวกเขาก็สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ใน เซเรีย ซี อิตาลี ได้แต่เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในสังเวียนที่ห่ำหั่นกันดุเดือดมากกว่าลีกที่พวกเขาลงเล่นมาไม่นานทีมฟุตบอล ดำ-เขียว ก็ต้องล่วงตกชั้นลงไปสู่สังเวียนเดิมที่พวกเขาเคยฟาดแข้งมา จนผ่านมาถึง ปี 1998 พวกเขาก็สามารถขยับผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนสามารถขยับจาก เซเรีย ซี มาสู่ เซเรีย บี ในรอบ 8 ปีที่พวกเขาทำสำเร็จและหลังจากนั้นผ่านมาพวกเขาก็ใช้เวลาในการเลื่อนชั้นตกชั้นสลับกันมาโดยที่ไม่มีวี่แววว่าจะขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลอิตาลี แต่แล้วด้วยความพยายามมานานหลายปี ซัสซูโอโล่ ได้ขึ้นมาจนถึงลีกสูงสุดได้ในปี 2013
นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของทีมฟุตบอลแห่งแคว้นเอมีเรีย-โรมัญญา คือทีมที่มีฉายาว่า ดำ-เขียว ที่สามารถขึ้นมาเป็นตัวแทนของแฟนบอลในแคว้นพร้อมทั้งสร้างชื่อให้กับคนในอิตาลีได้รู้ว่าทีมของพวกเขาก็ดีพอที่จะอยู่ในตารางคะแนนของ กัลโช่ เซเรีย อา แต่ปัญหาของ ซัสซูโอโล่ คือการที่พวกเขายังไม่มีสนามเหย้าในแคว้นของตัวเองซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ทีมฟุตบอลแห่งนี้มีสนามเหย้าอยู่ที่เมืองเรจโจเอมีเลีย ที่อยู่ห่างจากเมืองที่พวกเขาอยู่ไม่มาก ซึ่งสามมรถรองรับผู้ที่เข้ามาชมเกมได้อยู่ที่ราวๆ 20,084 ที่นั่ง โดยสนามแห่งนี้มีชื่อว่า สนามกีฬามาเปย์-ซิตตาเดลตรีโลเร หากจะย้อนทามไลน์ตามข้อมูลที่หามาได้คงต้องเริ่มจากลีกที่ระดับอาชีพมา คือในศึกฟุตบอล เซเรีย ซี 1 ก่อนจะมาเป็น เซเรีย ซี พวกเขาต้องลงแข่งขันอยู่ในระดับลีกท้องถิ่นซึ่งเรียกว่า เซเรีย ซี 2 พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะใน เซเรีย ซี 2 ได้ในปี 2005-06 พร้อมกับการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ เซเรีย ซี 1 หลังจากเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ใน C1 ได้เพียงฤดูกาลเดียวพวกเขาก็เกือบจะสามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาถึง เซเรีย บี ได้แต่นัดสุดท้ายของการเพลย์ออฟเลื่อนชั้นพวกเขากับต้องพบกับความพ่ายแพ้จนทำให้หัวหน้าโค้ชอย่าง Gian Marco Remondina จึดได้ตัดสินใจลาออกจากทีมและทำให้ถูกแทนที่ด้วย มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี อดีตนักเตะชื่อดังในเวทีลูกหนังใน เซเรีย เอ ที่ได้ผันตัวเองมาเป็นกุนซือในปีนั้น หลังจากการเข้ามาทำงานของ อัลเลกรี แค่เพียงปีเดียวเขาก็สามารถพาทีมขยับเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ของ อิตาลี ได้สำเร็จในปี 2008 หลังจากที่ อัลเลกรี พาทีมขยับขึ้นมาได้สำเร็จพี่แกก็ถูกทางด้านของสโมสรในเซเรีย อา อย่าง กายารี่ มาทาบทามจนทำให้เจ้าตัวได้ตัดสินใจอำลาออกจาก ซัสซูโอโล่ ในทันทีหลังจากที่มีผลงานอันน่าประทับใจกับสโมสรแห่งนี้พร้อมกับการเข้ามาทำหน้าที่ของ อันเดรีย มันดอร์ลินี่ กุนซือคนใหม่ที่เข้ามารับช่วงต่อ และเข้ามายกระดับมาตราฐานการเล่นของทีมให้มีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก
โดยปีแรกของการเลื่อนชั้นมาสู่ ดิวิชั่น 2 พวกเขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีจนติดอยู่ในครึ่งบนของตารางก่อนที่จะจบการแข่งขันในปีนั้น 5 นัดหลังสุดของพวกเขากับโชว์ฟอร์มออกมาได้แย่มีแค่ 2 แต้มจาก 5 เกมทำให้พวกเขาต้องหล่นมาอยู่ในอันดับ 7 ของตารางแต่เส้นทางระหว่าง มันดอร์ลินี่ กับสโมสรกับไปด้วยกันไม่ได้ส่งผลให้หลังจากสิ้นฤดูกาลนั้นสโมสรก็ต้องหาเฮดโค้ชคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ต่อไป โดยไปได้อดีตโค้ชคนเก่าของทีมอย่าง เปียเชนซ่า สเตฟาโน่ เข้ามาเป็นหัวเรือให้กับทีม และในฤดูกาลนั้นเองที่พวกเขาแต่งตัง สเตฟาโน่ ขึ้นมา ซัสซูเอาโล่ สามารถผ่านเข้าไปตัดเชือกในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้สำเร็จแต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องพลาดท่าทั้งในฤดูกาลนั้นและอีกฤดูกาลต่อมาที่พวกเขาได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในการเลื่อนชั้นแต่ก็แพ้พ่ายไปในรอบสุดท้าย จนกระทั่งในฤดูกาล 2012-13 การเข้ามาทำหน้าที่ของกุนซือคนใหม่อย่าง Eusebio Di Francesco ผุ้บันดาลความสำเร็จให้กับทีมด้วยการพาทีมจบด้วยการเป็นแชมป์ในรายการ กัลโช่ เซเรีย บี นับว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของสโมสรแห่งนี้ที่เคยทำได้ สุดท้ายพวกเขาก็สามารถผ่านเข้าไปจนถึงฝั่งฝันนั่นก็คือการที่พวกเขาได้ร่วมอยู่ในการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับสูงสุดของประเทศ และหลังจากนั้นชื่อเสียงเรียงนามของพวกเขาที่ไม่ค่อยได้มีใครให้ความสนใจสักเท่าไหร่ก็เริ่มถามไถ่ถึงที่ไปที่มาของสโมสรแห่งนี้มานับตั้งแต่นั้น หลังจากที่เส้นทางใน เซเรีย บี ได้จบลงก็จะขอยกไปที่เรื่องราวในเส้นทางความท้าทายใหม่ของทีมฟุตบอลแห่งนี้ โดยหลังจากที่พวกเขาสามารถขึ้นมาอยู่ในลีกระดับสูงสุดได้แล้ว ทัวร์นาเมนต์การแข่งขันบอลถ้วยการกุศลหรือศึกฟุตบอล Tim Trophy ของประเทศอิตาลีที่จัดขึ้นให้สำหรับทีมแชมป์จาก เซเรีย บี และ เซเรีย อา และแชมป์โทรฟี่รายการอื่นเอามาร่วมทำการแข่งขันกันโดยมีทั้งหมด 4 ทีมและเป็น ซัสซูโอโล่ ที่เอาชนะทั้ง ยูเวนตุส ,เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน
แต่ก็เป็นเหมือนแค่การอุ่นเครื่องก่อนลงศึกจริงเท่านั้นบอลถ้วยนี้อาจจะไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับสโมสรอื่นๆแต่ก็เป็นความาสำเร็จที่น่าประทับใจของทีมสโมสรฟุตบอลเล็กๆอย่าง ซัสซูโอโล่ พวกเขาประเดิมแกมแรกในศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2013 เกมแรกต้องเจอกับความพ่ายแพ้ไปให้กับ โตริโน่ เจ้าของ ฉายากระทิงหิน และก็เป็นงานหินจริงๆในเกมแรกของ ซัสซูโอโล่ พวกเขาแพ้ไป 2-0 นัดต่อมาพวกเขาก็ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ที่เริ่มจะหนักขึ้นโดยโดนทางฝั่งของ ลิวอร์โน่ ถล่มใส่ยับกลับมาถึง 4-1 ประตูก่อนที่พวกเขาจะมาเก็บแต้มแรกได้ในนัดที่ 5 ในการพบกับทาง นาโปลี โดยที่พวกเขาเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปเยือนแต่ก็สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีจนมาตีเสมอได้ในช่วงก่อนหมดเวลาและในแมตช์ต่อมาพวกเขามาเพิ่มได้อีกหนึ่งแต้มในบ้านของตัวเองด้วยการยันเสมอกับทาง ลาซิโอ้ ไป 2-2 ชัยชนะในเกมแรกของปีแรกของพวกเขาเกิดขึ้นในนัดที่เจอกับทาง โบโลญญ่า วันที่ 20 ตุลาคม 2013 โดยเฉือนชัยไปได้อย่างหวุดหวิด 2-1 และชัยชนะในฐานะเกมเยือนนอกบ้านครั้งแรกเกิดขึ้นในอีกหลายเดือนต่อมาพวกเขาสามาถบุกไปเอาชนะ ซามพ์โดเรีย ไปอย่างสุดมันส์โดยแมตช์นั้นพวกเขาเอาชนะไปได้ 4-3 ประตูในปีแรกของพวกเขาสามารถรอดจากการตกชั้นไปได้ด้วยการอยู่เหนือกลุ่มตกชั้นแค่เพียงไม่กี่อันดับ
สำหรับในปีต่อมาฤดูกาล 2014-15 ผลงานของพวกเขาก็เริ่มดูดีขึ้นจนขยับมาจบอยู่ในอันดับ 7 ของตารางและยังคงเป็นกองหน้าตัวเก่งอย่าง เบราร์ดี้ ที่ช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นมาโดยในปีแรกของการเลื่อนชั้นขึ้นมา เบราร์ดี้ ก็เป็นคนเดียวในสโมสรที่สามารถยิง 4 ประตูได้ในแมตช์เดียวซึ่งเป็นเกมที่พวกเขาเจอกับทาง ซามพ์โดเรีย นั้นเองและเป็นนักเตะเพียงคนเดียวในฤดูกาลนั้นที่ทำได้สถิติ 4 ประตูใน 1 แมตช์ได้ ปีต่อมาผลงานของทีมก็เริ่มก้าวหน้าขึ้นมาอีกขั้นโดยหลังจากที่สิ้นฤดูกาล 2015-16 พวกเขาจบอันดับที่ 6 ของตารางสามารถเข้าไปร่วมการแข่งขันในรายการเพลย์ออฟฟุตบอลยุโรปได้เป็นครั้งแรกของสโมสรและผ่านเข้าไปจนถึงรอบแบ่งกลุ่มทำให้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่เริ่มมีแฟนบอลเพิ่มขึ้นในระดับทวีปและยังสามารถทำให้คนได้รู้จักชื่อสโมสรของพวกเขามากยิ่งขึ้นและหลังจากนั้นพวกเขาเกาะกลุ่มในอยู่ในตารางการแข่งขันของลีกสูงสุดมาตลอดโดยที่ยังมีฟอร์มการเล่นที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้บางฤดูกาลก็ผลงานดี ดีจนแบบว่าเวอร์เลยแต่บางฤดูกาลก็โชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างน่าผิดหวังแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความสำเร็จที่เหล่าแฟนบอลของพวกเขาต้องการคือได้เห็นทีมติดอยู่ในลีกสูงสุดของอิตาลีหรืออาจจะมีฝันไกลไปถึงการคว้าแชมป์แต่ด้วยแรงขับเคลื่อนทางการเงินที่ไม่ดีเหมือนกับสโมสรอื่นๆแค่สามารถรั้งอยู่ในลีกสูงสุดได้อย่างยาวนานก็เพียงพอต่อความต้องการของแฟนบอลแล้ว และนี่เป็นข้อมูลคร่าวๆของสโมสรแห่งนี้อาจจะมีเนื้อหาที่น้อยไปหน่อยก็ต้องขออภัยมาใน ณ ที่นี้เพราะประวัติและความเป็นมาของสโมสรแห่งนี้มีที่มาของข้อมูลน้อยมากๆแทบจะหาไม่ได้เลยด้วยซ้ำอย่างไรก็ตามขอให้ผู้อ่านมีความสุขต่อการเสพข้อมูลของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ด้วยก็แล้วกัน ( Updated : 27-4-2020 )