TDEDKICK.COM

เซบีย่า

( Sevilla )


website : https://www.sevillafc.es/
No. Name Type Join Out
4 เซร์คิโอ รามอส ผู้เล่น 2023-09-04 -
16 เฆซุส นาบาส ผู้เล่น 2017-08-01 -
13 ออร์ยัน นีลันด์ ผู้เล่น 2023-08-20 -
- Quique Sanchez Flores โค้ช 2023-12-18 -
8635 โธมัส เดลานี่ย์ ผู้เล่น 2021-08-25 -
17 เอริค ลาเมล่า ผู้เล่น 2021-07-28 -
6 เนมานย่า กูเดลย์ ผู้เล่น 2019-07-23 -
7 ซูโซ่ ผู้เล่น 2020-07-21 -
1 มาร์โก ดมิโตรวิช ผู้เล่น 2021-07-01 -
8635 ลุดวิก ออกุสตินส์สัน ผู้เล่น 2021-08-15 -
21 โอลิเวอร์ ตอร์เรส ผู้เล่น 2019-07-15 -
5 ลูคัส โอคัมโปส ผู้เล่น 2019-07-03 -
25 อั๊ดนาน ยานาไซ ผู้เล่น 2022-08-31 -
12 มาเรียโน่ ดิอาซ ผู้เล่น 2023-09-01 -
19 มาร์โกส อากุญญา ผู้เล่น 2020-09-14 -
8 โยอัน จอร์แดน ผู้เล่น 2019-07-01 -
9 ราฟาเอล เมียร์ ผู้เล่น 2021-08-20 -
10203 กอนซาโล มอนเทียล ผู้เล่น 2021-08-13 -
11 โดดี้ ลูเกบากิโย ผู้เล่น 2023-08-24 -
18 ฌิบริล โซว์ ผู้เล่น 2023-08-04 -
23 Marcao ผู้เล่น 2022-07-08 -
15 ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ผู้เล่น 2020-01-16 -
8305 ออสการ์ โรดริเกซ ผู้เล่น 2020-08-29 -
24 บูบาการี่ ซูมาเร่ ผู้เล่น 2023-09-01 2024-06-30
3 อาเดรีย เปโดรซ่า ผู้เล่น 2023-07-01 -
8635 Federico Gattoni ผู้เล่น 2023-01-31 -
42 ลูเซียง อากูเม่ ผู้เล่น 2024-01-10 2024-06-30
14 ต็องกีย์ กูอัสซี่ ผู้เล่น 2022-08-17 -
46 Hannibal Mejbri ผู้เล่น 2024-01-15 2024-06-30
22 โลอิค เบด ผู้เล่น 2023-07-01 -
20 Isaac Romero ผู้เล่น 2024-01-11 -
26 Juanlu Sanchez ผู้เล่น 2022-07-01 -
9867 Luismi Cruz ผู้เล่น 2022-07-01 -
10 Alejo Veliz ผู้เล่น 2024-02-01 2024-06-30
8305 Jose Angel Carmona ผู้เล่น 2022-07-01 -
2 Kike Salas ผู้เล่น 2022-07-01 -
8302 Alberto Flores ผู้เล่น - -
39 Lulo Dasilva ผู้เล่น - -
29 Dario Benavides ผู้เล่น - -
8302 Matias Arbol ผู้เล่น - -
35 Xavi Sintes ผู้เล่น - -
28 Manu Bueno ผู้เล่น - -
Tournament Join Out
UEFA Super Cup 2023-08-15 2023-08-16
LaLiga 2023-08-11 2024-05-26
Champions League Grp. B 2023-09-19 2023-12-12
Copa del Rey 2023-10-30 2024-04-06

ประวัติ : เซบีย่า

เซบีย่า (Sevilla) ชื่อเต็ม (Sevilla Futbol Club) อยู่ที่เมืองเซวิลล์ แคว้นอันดาลูเซีย ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 1890 โดย เอ็ดเวิร์ด ฟาร์คฮาร์สัน จอห์นสตัน (Mr. Edward Farquharson Johnston) เข้ามาเป็นประธานสโมสรคนแรก ซึ่งเป็นรองกงสุลในเมืองเซวิลล์ และเป็นเจ้าของร่วม บริษัท MacAndrews & Co. รวมถึงเจ้าของเรือพาณิชย์ระหว่างประเทศสเปนกับสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1918 เซบีย่า ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในรายการ โคปา เด เอสปัญญา เป็นครั้งแรก แล้วก็กลายเป็นสโมสรแรกจากแคว้นอันดาลูเซีย ที่ผ่านทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และในปี ค.ศ. 1934 เซบีย่า ได้รับการเลื่อนชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ของ “Campeonato Nacional ” ถัดมาเพียงปีเดียว เซบีย่า ก็สามารถคว้าแชมป์แรกได้ และในปี ค.ศ. 1939 กับปี ค.ศ. 1948 เซบีย่า ก็คว้าแชมป์เพิ่ม และอยู่ดิวิชั่น 1 จนถึงปี ค.ศ. 1967 ก่อนที่จะตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 2 เป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี แต่เซบีย่าก็ฮึดสู้จนเลื่อนชึ้นมาได้ในระยะเวลาเพียงปีเดียว ปีต่อมา แม็กซ์เมอร์เคล ผู้จัดการทีมได้ใช้เทคนิคการเล่นและการฝึกฝนอย่างหนัก จนทำให้ เซบีย่า จบในอันดับที่ 3 และในปี ค.ศ. 1970 เซบีย่า ถูกบังคับ ให้ขายนักเตะระดับดาวดังออกจากทีม เพื่อนำไปชำระหนี้ที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ จนถึงปี ค.ศ. 1973 ก็ได้ตกชั้นอีกครั้ง หลังจากนั้น โรเก้ โอลเซน (Roque Olsen) ก็เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมต่อ และก็ช่วยให้ เซบีย่า ขึ้นไปอยู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ ในปี ค.ศ. 1984 ยูเจนิโอ มอนเตส คาเบซา (Eugenio Montes Cabeza) ลาออกจากการประธานสโมสรและถูกแทนที่ด้วยนักธุรกิจ กาเบรียล โรคัส (Gabriel Rojas) เข้ามาบริหารสโมสรในฐานะรองประธาน ได้นำความก้าวหน้าในหลายๆด้าน

ในปี ค.ศ. 1993 สโมสรได้เจรจาซื้อ ดิเอโก มาราโดน่า นักเตะระดับโลกจากนาโปลีด้วยค่าตัว 7.5 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับสโมสร จนต้องถึงปล่อยตัวออกไป จากปัญหาการบาดเจ็บบ่อย ในปีถัดมา ลูอิส อารากอน เจ้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม พร้อมกับพา เซบีย่า ไปเล่นรายการยูฟ่าคัพด้วย แต่ในปีนั้น เซบีย่า ตกชั้นอีก และมีการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรถึง 4 คน และเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอีก 3 คน จนถึงปี ค.ศ. 1999 ก็วนเวียนกลับมาได้ แต่ก็ขึ้นมาได้เพียงปีเดียวก็ต้องตกชั้นไปอีก ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2002 โรแบร์โต อาเลส ลาออกจากการเป็นประธานสโมสร และในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2003 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายในสนาม จน เซบีย่า ถูกสั่งห้ามไม่ให้แข่งขันในบ้าน 4 เกม แต่ปีนั้น เซบีย่า จบในอันดับต้นเลยได้สิทธิไป ยูฟ่า ยูโรปาลีก ในปี ค.ศ. 2004 และ ปี ค.ศ. 2005 ก่อนที่จะครบร้อยปีของสโมสร เซบีย่า ก็สามารถคว้าแชมป์ระดับทวีปยุโรปได้เป็นครั้งแรก ในปี 2005 ภายใต้การคุมทีมของ ฆวนเด้ รามอส (Juande Ramos) และในปี 2006 เซบีย่า ก็คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพได้ แล้วก็จบซีซั่นด้วยการคว้าแชมป์ ยูโรป้าลีก อีกครั้ง จากความสำเร็จเหล่านี้ เซบีย่า ได้ถูกขนานนามว่าเป็น ทีมสโมสรโลกยอดเยี่ยมแห่งปี (IFFHS) และในปี 2007 ก็คว้าแชมป์ โคปา เด เอสปัญญา ได้ แต่ผลงานในลีกไม่ค่อยจะดีนัก ทาง ฆวนเด้ รามอส เลยตัดสินใจลาออก เพื่อรับความผิดชอบทั้งหมดต่อสโมสร แล้วในวันที่ 27 ตุลาคม มานูเอล คิเมเนซ (Manuel Jimenez) ก็เข้ามาคุมทีมต่อชั่วคราว ถึงแม้ช่วงนั้นจะไม่นักเตะให้เลือกใช้งานมากมาย แต่ทาง มานูเอล คิเมเนซ ก็พา เซบีย่า ผ่านรอบแรกในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ ก่อนที่จะตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยฝีเท้าของนักเตะอาร์เซน่อล

ในปี ค.ศ. 2008 ก็สโมสรก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า มานูเอล คิเมเนซ เข้ามารับตำแหน่งในฐานะผู้จัดการทีม และก็พา เซบีย่า จบในอันดับที่ 3 ด้วยสถิติที่คว้าชัยชนะไป 21 เกม และเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรในปี ค.ศ. 2009-2010 แม้ว่าผลงานของ เซบีย่า จะอยู่หัวตารางและได้ลงเล่นในหลายรายการทั้งในประเทศและทวีปยุโรป แต่ก็ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ในช่วงเวลานั้น ในวันที่ 14 มกราคม ปี 2013 เซบีย่า แพ้ต่อ บาเลนเซีย ไป 0 ประตูต่อ 2 เลยมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมคนใหม่ โดย อูไน เอเมรี่ (Unai Emery) แต่ช่วงนั้นสโมสรประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก จนทำให้สโมสรต้องการนักเตะดาวดังออกจากสโมสรไป อาทิเช่น อัลบาโร่ เนเกรโด้ (Alvaro Negredo) และ เฆซุส นาบาส (Jesus Navas) ทำให้สโมสรมีรายได้รวมถึง 40 ล้านยูโร แล้วก็ถูกแทนที่ด้วยนักเตะดาวรุ่งอย่าง คาร์ลอส บัคก้า (Carlos Bacca) และ เควิน กาเมโร่ (Kevin Gameiro) ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 เซบีย่า ชนะ เบนฟิก้า ในรอบชิงชนะเลิศรายการ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ด้วยการดวลจุดโทษ เลยคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ในปีต่อมากองกลางตัวหลักของสโมสรอย่าง อิวาน ราคิติช (Ivan Rakitic) ก็ถูกขายให้กับคู่ปรับอย่างบาร์เซโลน่าไปในราคา 16 ล้านยูโร รวมถึง คาร์ลอส บัคค่า นักเตะที่ทำประตูสูงสุดของสโมสรก็ถูกขายให้กับ เอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร แต่อย่างไรก็ตามสโมสรก็ได้นักเตะอย่าง เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (Grzegorz Krychowiak) และ เอเวอร์ บาเนก้า (Ever Banega) เข้ามาเสริม หลังจากนั้นในวันที่ 27 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 2015 เซบีย่า ก็คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ได้อีกครั้ง ด้วยการเอาชนะ ดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟสค์ ทีมจากยูเครน ไปได้ 3 ประตู 2 แล้วก็กลายเป็นสโมสรเดียวในทวีปยุโรปที่คว้าแชมป์ได้ถึง 4 สมัย และในปี ค.ศ. 2016 เซบีย่า ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 3 ปีติดต่อกัน แต่ต้องเผชิญหน้ากับยอดทีมแห่งเมืองอังกฤษอย่างลิเวอร์พูล และเซบีย่าก็ถูกนำไปก่อน 1 ประตูต่อ 0 ในช่วง 45 นาทีแรก หลังจากกลับลงมาแข่งขันในช่วงเวลาครั้ง เซบีย่า พลิกกลับมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 1 ชัยชนะดังกล่าวทำให้ เซบีย่า คว้าบัลลังค์แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 3 สมัยติดต่อกัน พร้อมกับสร้างสถิติคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 5 สมัย ในระยะเวลาแค่ 10 ปี ปัจจุบัน เซบีย่า อยู่ภายใต้การคุมทีมของ ฆูเลน โลเปเตกี (Julen Lopetegui)

เกียรติประวัติแชมป์ทั้งหมดของ เซบีย่า หรือ “นักบุญแคว้นอันดาลูเซีย” : ระดับทวีปยุโรป แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก (5 สมัย), แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ (1 สมัย) : ระดับประเทศ แชมป์ลาลีก้า (1 สมัย), แชมป์ เซกุนด้า ดิวิชั่น (4 สมัย), แชมป์โกปาเดลเรย์ (5 สมัย), แชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า (1 สมัย) และระดับภูมิภาคอีก (18 สมัย)

ที่มาของตราโมสรเซบีย่า ในปี ค.ศ. 1908-1909 เริ่มต้นแบบเรียบง่าย ด้วยการดึงเอาตัวย่อ “SFC” จากคำว่า Sevilla FC และทับด้วยสีแดงในวงกลม ในช่วงปี ค.ศ. 1909-1915 ปรับเปลี่ยนมาใช้สีดำแทน พร้อมกับเพิ่มกรอบนอกด้วยคำว่า “Sevilla Football Club” ในปี ค.ศ. 1915-1918 กลับมาใช้แบบเดิมจากปี ค.ศ. 1909 แต่เพิ่มความเข้มของเส้น ในปี ค.ศ. 1921-1926 สโมสรเริ่มใช้รูปแบบใหม่ คล้ายๆกับรูปสามเหลี่ยม แต่มีส่วนเว้า 2 ข้างด้านบน และใส่รูปนักบุญทางช่องทางซ้ายในเกรอบสามเหลี่ยม และนำอักษรย่อของสโมสรส่ในช่องทางขวา แล้วตรงกลางวางรูปวงกลมเล็กๆ สีเหลืองและมีกงจักรหรือในพัดสีแดงเลือดหมูอยู่ข้างในนั้น ส่วนด้านล่างลงมาใส่สีแดงและสีขาวสลับกัน แสดงถึงสีประจำสโมสร ในปี ค.ศ. 1926-1932 มีการเพิ่มความระเอียดของสีจากตราเดิม และใช้สีแดงล้อมรอบเป็นส่วนใหญ่ ในปี ค.ศ. 1932-1935 ยังใช้รูปแบบเดิม แต่เปลี่ยนแปลงรูปฟุตบอลลายคลาสสิค พร้อมกับปรับเป็นสีเหลืองให้ดูเด่นขึ้น และเพิ่มไม้กางเขน ในปี ค.ศ. 1935-1945 ตัดขอบเส้นออก และเอาไม้กางเขนออก แต่ยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม ในปี ค.ศ. 1945-1966 นำสีแดงและสีเหลืองทองมาตัดให้ลงตัวและชัดเจนมากขึ้น ในปี ค.ศ. 1966-1979 ใส่เน้นความเข้มตรงที่บัลลังค์นักบุญ 3 คน ในปี ค.ศ. 1979-1995 ใส่สีแดงตรงบัลลังค์นักบุญ และแก้ไขสีเสื้อนักบุญให้เป็นสีขาวผสมสีเหลืองทอง ในปี ค.ศ. 1995-2012 กลับมาใช้ในรูปแบบ ปี ค.ศ. 1918 แต่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและตัดขอบด้วยสีดำ ในปี ค.ศ. 2013 ก็กลับมาใช้ตราในยุค 1980 ส่วนปี ค.ศ. 2014-ปัจจุบัน กลับมาใช้รูปแบบ ปี ค.ศ. 1995 ที่กันใช้มานาน ( Updated : 17-4-2020 )

Top Goal Player