เอ็มโปลี
( Empoli )
website : https://empolifc.com/
No. | Name | Type | Join | Out |
---|---|---|---|---|
- | Davide Nicola | โค้ช | 2024-01-16 | - |
10 | เอ็มบาย เนียง | ผู้เล่น | 2024-01-31 | - |
99 | เอทริต เบริช่า | ผู้เล่น | 2023-08-29 | - |
23 | มัตเตีย เดสโตร | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
9 | ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ | ผู้เล่น | 2023-07-01 | - |
19 | บาร์ตอสซ์ เบเรสซีนสกี้ | ผู้เล่น | 2023-08-22 | 2024-06-30 |
26 | ลอเรนโซ่ โตเนลลี่ | ผู้เล่น | 2021-08-27 | - |
9882 | Petar Stojanovic | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
17 | อัลแบร์โต้ แชร์รี่ | ผู้เล่น | 2024-01-19 | 2024-06-30 |
8540 | เลียม เฮนเดอร์สัน | ผู้เล่น | 2021-08-11 | - |
30 | ซิโมเน่ บาสโทนี่ | ผู้เล่น | 2023-09-01 | 2024-06-30 |
11 | เอ็มมานูเอล กยาซี่ | ผู้เล่น | 2023-07-21 | - |
24 | Tyronne Ebuehi | ผู้เล่น | 2022-07-05 | - |
10199 | นิโคลัส ฮาร์ส | ผู้เล่น | 2021-07-01 | - |
18 | ราซวาน มาริน | ผู้เล่น | 2022-07-05 | 2024-06-30 |
5 | อัลแบร์โต้ กราสซี่ | ผู้เล่น | 2023-07-01 | - |
8 | Viktor Kovalenko | ผู้เล่น | 2023-08-25 | 2024-06-30 |
33 | เซบาสเตียโน่ ลูแปร์โต้ | ผู้เล่น | 2023-07-01 | - |
1 | ซามูเอเล่ เปริซาน | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
3 | จูเซ็ปเป้ เปซเซลล่า | ผู้เล่น | 2023-07-31 | - |
6512 | โจวานนี่ โครเชียต้า | ผู้เล่น | 2021-07-01 | - |
34 | Ardian Ismajli | ผู้เล่น | 2021-08-09 | - |
29 | ยูสเซฟ มาเลห์
| ผู้เล่น | 2023-08-31 | 2024-06-30 |
27 | ซีมอน ชูร์กอฟสกี้ | ผู้เล่น | 2024-01-09 | 2024-06-30 |
4 | เซบาสเตียน วาลูเคียวิกซ์ | ผู้เล่น | 2023-07-01 | - |
13 | ลิเบราโต คาคาเซ่ | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
25 | เอเลีย คาปริเล่ | ผู้เล่น | 2023-07-24 | 2024-06-30 |
16 | ลูก้า เบลาร์ดิเนลลี่ | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
28 | Nicolo Cambiaghi | ผู้เล่น | 2022-08-04 | 2024-06-30 |
6484 | Niccolo Chiorra | ผู้เล่น | 2021-07-29 | - |
9849 | ฟรานเชสโก้ โดนาติ | ผู้เล่น | 2022-06-30 | - |
20 | Matteo Cancellieri | ผู้เล่น | 2023-08-16 | 2024-06-30 |
6038 | Emmanuel Ekong | ผู้เล่น | 2021-07-01 | - |
959006 | Samuele Angori | ผู้เล่น | 2023-07-17 | - |
21 | Jacopo Fazzini | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
6512 | Duccio Degli Innocenti | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
9887 | Gabriele Guarino | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
8154 | Lovro Stubljar | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
7 | Stiven Shpendi | ผู้เล่น | 2023-08-05 | 2025-06-30 |
12 | Jacopo Seghetti | ผู้เล่น | - | - |
2 | Saba Goglichidze | ผู้เล่น | 2024-01-06 | - |
6495 | Luca Marianucci | ผู้เล่น | - | - |
31 | Giacomo Corona | ผู้เล่น | - | - |
40 | Filippo Vertua | ผู้เล่น | - | - |
Tournament | Join | Out |
---|---|---|
Serie A | 2023-08-18 | 2024-05-26 |
Coppa Italia | 2023-08-04 | 2024-05-15 |
ประวัติ : เอ็มโปลี
แกะรอยประวัติสโมสรฟุตบอล เอ็มโปลี ทีมน้องใหม่ไฟแรงประจำศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่พึ่งจะเห็นหน้าคาดคากันเมื่อเร็วนี่เมื่อพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ในรายการ กัลโช่ เซเรีย บี ของอิตาลีไปเมื่อฤดูกาล 2017-18 ทำให้ตีตั๋วขึ้นมาโล้ดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดได้ในปี 2018-19 โดยตามประวัติในดิวิชั่นต่างๆที่พวกเขาเคยลงเล่นมานับเป็น กัลโช่ เซเรีย อา หรือ ลีกสูงสุดในอิตาลีมา 13 ซีซั่น รองมา ดิวิชั่น 2 หรือ เซเรีย บี อยู่ 20 ฤดูกาลและสุดท้ายผลงานในกัลโช่ เซเรีย ซี ทีอยู่มานานสุดถึง 50 ฤดูกาล แม้ว่าตอนนี้ผลงานของพวกเขาในลีกปัจจุบันจะโชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างย่ำแย่ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าพวกเขายังมีประสบการณ์ในลีกสูงสุดที่น้อยกว่าทีมคู่ปรับในตารางอยู่หลายๆมทีม แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับแฟนคลับ อัซซูร์รี่ (ฉายาประจำสโมสร) ที่ได้เห็นทีมรักของพวกเขากลับมาอยู่ในลีกใหญ่สุดระดับประเทศได้ โดยปกติแล้ว เอ็มโปลี เองไม่ใช่สโมสรที่ถูกทางสมาคมฟุตบอลอิตาลี คัดเลือกให้มาเล่นอยู่ในลีกระดับอาชีพตั้งแต่แรก โดยพวกเขาใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไต่เต้าขึ้นมาจนมาเป็น ทีมฟุตบอลระดับอาชีพที่สามารถทะยานเข้าถึงจุดสูงสุดของการเล่นในประเทศได้ ปัจจุบันสโมสรฟุตบอลแห่งนี้มีที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ เมือง เอ็มโปลี มลฑลฟลอเรนซ์ แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี พวกเขามีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1920 สนามเหย้าปัจจุบันชื่อว่า สนามกีฬา คาร์โลคาสเตลลานี ที่จุผู้ชมได้อยู่ที่ 16,284 ที่นั่ง
การก่อตั้งทีมฟุตบอลแห่งนี้ตามประวัติเขียนไว้ว่ามีมาตั้งแต่ปี 1920 เป็นการรวมสองสโมสรในท้องถิ่นที่เคยฟาดแข้งกันในทัวร์นาเมนต์เมือง มินิอาโต Unione Sportiva Empoli และUnione Sportiva Empoli จนแล้วจนเล่าพวกเขาก็ได้รวมกันมาเป็นหนึ่งเดียวกันนับตั้งแต่นั้นและกลายมาเป็นสโมสรฟุตบอลประจำท้องถิ่นในเวลาต่อมาในปีต่อมาพวกเขาก็ได้เป็นตัวแทนของแคว้นทัสคานีที่จะได้เข้าลงทัวร์นาเมนต์ระดับอาชีพจากการรับเชิญของ FIGC หรือ สมาคมฟุตบอลอิตาลี แต่แล้วพวกเขาก็ต้องผิดหวังเมื่อปัญหาทางด้านการเงินทำให้ เอ็มโปลี ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในระดับอาชีพได้ทำให้พวกเขาต้องอาศัยวนเวียนอยู่ในลีกสมัครเล่นมาก่อนในปี 1923 สโมสรสามารถคว้าแชมป์ในลีกระดับสมัครเล่นได้สำเร็จและได้ผ่านเข้าไปจนถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นแต่ในปีนั้นพวกเขาจบในการเพลย์ออฟในอันดับ 3 ทำให้การเลื่อนชั้นกลายเป็นแค่อากาศไป แต่พวกเขาก็ยังไม่ลดละความตั้งใจและใช้เวลาวนเวียนอยู่ในลีกสมัครเล่นอยู่นานหลายปีและในที่สุด เอ็มโปลี ก็สามารถขยับเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 3 ของอิตาลีได้ในปี 1927 ต่อมาอีกหนึ่งปี สมาคมฟุตบอลอิตาลีมีมติที่จะก่อตั้งลีกใหม่โดยใช้ชื่อว่า พรีม่า ดิวิซิโอเน่ พร้อมกับ กัลโช่ เซเรีย อา ในปีเดียวกันและ เอ็มโปลี ก็ได้รับคำเชิญจาก FIGC ให้ลงร่วมอยู่ในดิวิชั่นแต่ก็ดันไม่พร้อมในช่วงที่โอกาสมาถึงจึงทำให้พวกเขายังคงลงเล่นอยู่ในลีกระดับทีมสมัครเล่นในแคว้นเหมือนเช่นเคย แต่หลังจากสิ้นฤดูกาลดั่งกล่าวพวกเขากับได้แชมป์ระดับแคว้นจนสามารถผ่านเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 3 ของ อิตาลี อีกรอบหลังจากนั้นด้วยศักยภาพและการเงินของทีมที่ไม่ได้เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่พวกเขายังคงต้องใช้เวลาอยู่ใน กัลโช่ เซเรีย ซี อยู่เป็นระยะเวลานานหลายปีอีกทั้งยังมาโชคร้ายในช่วงปี 1935 เมื่อนักเตะในทีมถูกเรียกตัวไปติดทหารจนทำให้สโมสรจึงต้องยุติการลงแข่งขันไปกลางครัน และต่อมาอีกหนึ่งปีหลังจากที่ยุบทีมไปพวกเขกลับมาในชื่อใหม่ว่า OND Empoli พร้อมกับการเป็นแชมป์ในแคว้นทัสคานีได้ในปีนั้นๆเลยจนทำให้พวกเขาสามารถกลับมาอยู่ใน เซเรีย ซี อิตาลี ได้อีกครั้งและหลังจากนั้นในปี 1938 พวกเขาก็หันมาใช้ชื่อทีมใหม่เป็น OND Interaziendale Italo Gambaccioni Section Soccer ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Associazione Calcio Empol เพื่อลดความยาวของชื่อทีมให้สั้นลง
ภายในยุคนั้นบวกกับการเกิดสงครามโลกครั้งที่สองทำให้ประวัติของสโมสรดูจะเงียบหายไปจนหลังจากที่ไฟของสงครามโลกเริ่มที่จะเบาบางลงและกิจกรรมการเล่นกีฬาต่างๆในประเทศเริ่มมาทำการลงแข่งขันกันอีกครั้งซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี 1944 โดย เอ็มโปลี กลับมาครั้งนี้พร้อมกับชื่อทีมใหม่อีกครั้งว่า Empoli Football Club และหลังจากนั้น อัซซูร์รี่ ก็เริ่มขยับผลงานของตัวเองขึ้นมาได้ดีในช่วง 2 ปีหลังจากที่จบสงครามจนกระทั้งในจบสิ้นฤดูกาล 1946 พวกเขาจบอันดับที่ 3 ของ เซเรีย ซี ส่งผลให้ทีมสามารถเลื่อนชั้นขึ้นสู่ เซเรีย บี ได้อย่างอัตโนมัติ การเลื่อนชั้นขึ้นมาในครั้งนี้ เอ็มโปลี ก็โชว์ฟอร์มออกมาได้ดีจนมีผลงานที่น่ายกย่องมากในช่วงปีแรกแต่แล้วเหตุการณ์อันย่ำแย่ของทีมก็เกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงฤดูกาล 1949-50 อยู่ๆผลงานของพวกเขาก็เริ่มดร็อปลงไปจนในที่สุดพวกเขาต้องกลับบ้านเก่าโดยการลงไปเล่นอยู่ในดิวิชั่น อย่าง เซเรีย ซี และเหมือนว่าจะเป็นครั้งที่ยาวนานของพวกเขาที่ต้องตกชั้นลงไปในครั้งนี้โดยพวกเขาใช้เวลาอยู่ใน เซเรีย ซี ยาวนานถึง 20 ปีจนกระทั่งในปี 1982-83 พวกเขาจบอยู่ที่อันดับ 1 ของเซเรีย ซี สามารถตีตั๋วกลับมาอยู่บน เซเรีย บี ได้อีกครั้งโดยการคว้าแชมป์ใน เซเรีย ซี ครั้งนี้เป็นรอบ 40 ปีพอดีที่พวกเขาเคยได้แชมป์ลีกนี้มาครองต่อมาในช่วงปี 1986 ความโชคดีของ เอ็มโปลี ก็มาถึงเมื่อจบในอันดับ 4 ของตารางแต่สาเหตุที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมานั้นมาจากการที่ วิเซ่นซ่า ทีมที่คว้าอันดับ 3 ของซีซั่นมาครองไว้ได้แต่เนื่องจากไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล็อคผลบอลทำให้พวกเขาโดนแบบจากการเลื่อนชั้นพร้อมกับขยับอันดับให้กับ เอ็มโปลี เป็นฝ่ายที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาแทนและถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของสโมสรที่ทะยานขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จต่อมาในปี 1987 เป็นปีแรกของการเลื่อนชั้นขึ้นมาบน เซเรีย อา สภาพทีมสุดแสนจะย่ำแย่เกือบเอาตัวไม่รอดตั้งแต่ปีแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นมาแต่ก็มีความโชคดีเข้ามาเมื่อสโมสรร่วมลีกอย่าง อูดิเนเซ่ ที่โดนทางสมาคมฟุตบอลอิตาลี ลงทันหลังจากที่สืบคดีแล้วไปเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการล้มบอลทำให้การตกชั้นของ เอ็มโปลี จึงรอดมาได้อย่างน่าใจหาย แต่แล้วในปี 1988 พวกเขากลับไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตผลบอลด้วยทำให้ทาง FIGC ตัดแต้มของพวกเขาออก 5 คะแนนและทำให้พวกเขามีอันดับหล่นลงไปอยู่ในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนนทำให้ เอ็มโปลี ต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อเอาไวล่วงชั้นลงไปเล่นใน เซเรีย บี เหมือนเดิมหลังสิ้นฤดูกาล 1988-89
หลังจากนั้น สถานการณ์ของ อัซซูร์รี่ ก็ไม่ได้ดีขึ้นแถมยังย่ำแย่ลงกว่าเดิมรามไปจนถึงผลงานที่กู่ยังไงก็ไม่กลับในปีนั้นทำให้พวกเขาต้องจมลงสู่ดิวิชั่น 3 แบบไม่ต้องมีคำอธิบายใดใด ต่อมา เอ็มโปลี ก็ใช้เวลาเก็บประสบการณ์อยู่ในดิวิชั่น 3 อยู่นานหลายปีจนกระทั้งในปี 1996 พวกเขาสามารถกลับเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ใน เซเรีย บี ได้อีกหนและเมื่อพวกเขาออกสตาร์ทใน เซเรีย บี ไปก็ทำผลงานอย่างน่าประทับใจมาก สามารถกระชากอันดับ 2 ของลีกมาครองได้ทำให้พวกเขาตีตั๋วเลื่อนชั้นกลับขึ้นไปอยู่ใน กัลโช่ เซเรีย อา เหมือนเคย พร้อมกับผลงานในปีแรกของเวทีใหญ่ในระดับประเทศของอิตาลี เอ็มโปลี จบในอันดับที่ 13 จากการนำทัพของ ลูชาโน่ สปาเล็ตติ แต่หลังจากที่ประคองผลงานให้สโมสรปลอดภัยไว้ได้ สปาเล็ตติ ก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อหันไปคุมทีม ซามพ์โดเรีย แทนและหลังจากนั้นก็นำพาสโมสรไปสู่วิกฤติอีกครั้งในปี 1999 ผลงานของพวกเขากลับมาย่ำแย่ลงไปอีกโดยการมีแต้มห่างจากโซนปลอดภัยอยู่ถึง 13 คะแนนด้วยกันเป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องตกชั้นลงสู่ดิวิชั่น 2 อีกรอบหนึ่ง ผ่านมา 2-3 ฤดูกาลผลงานของ อัซซูร์รี่ เริ่มกลับมามีแนวโน้มว่าจะกลับมาเรียกฟอร์มเก่งของทีมได้อีกครั้งโดยเป็นการดันทัพนักเตะจากชุดเยาวชนขึ้นมาจนสามารถพาทีมจบอยู่ในอันดับ 4 ของศึกเซเรีย บี ไว้ได้ทำให้ได้ตั๋วไปเตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นและพวกเขาก็ทำสำเร็จสามารถคืนสู่ลีกสูงสุดของประเทศได้อีกรอบ แต่ปีต่อมาในเวทีใหญ่พวกเขายังมีฝีเท้าไม่ถึงขึ้นสุดท้ายก็ต้องล่วงตกชั้นกลับมาดังเดิม แต่การตกชั้นของพวกเขาในครั้งนี้เพียงหนึ่งปีที่เล่นในเซเรีย บี ก็ไม่อาจรั้งฟอร์มอันร้อนแรงของพวกเขาไว้ได้ เอ็มโปลี เป็นแชมป์ เซเรีย บี ได้ในปี 2004-05 พร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นมาได้อีกหน
ในฤดูกาลต่อมาสโมสรเกือบที่จะได้สร้างประวัติศาสตร์แรกกับเกมในบอลถ้วยยุโรปได้อยู่แล้วแต่ดันไปติดตรงเรื่องของเอกสารที่ยื่นไม่ครบจนเป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่ได้ถูกบันทึกในหน้าหนังสือประวัติศาตร์ของรายการฟุตบอลยุโรป โดยที่มาของการได้โคว้ต้าในครั้งนี้มาจากคดีอื้อฉาว กัลโช่โปลี ที่โด่งดังที่ทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอิตาลีถูกแบบจนต้องตกชั้นลงมา โดยในปีนั้น เอ็มโปลี คว้าอันดับ 10 ของลีกมาครองได้แต่ได้แต้มบวกจนขยับอันดับขึ้นไปจนได้โควต้ามานั่นเอง แต่ในปีต่อมาพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องเสียหน้าหลังจากที่คว้าอันดับ 7 ในฤดูกาล 2007 ทำให้ เอ็มโปลี ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของสโมสร แต่แม้ว่าความพยายามของพวกเขาจะมีมากขนาดไหนก็ไม่สามารถต้านทานสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปได้พวกเขาตกรอบตั้งแต่การเตะเพลย์ออฟก่อนจะเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มสะอีกและผลสุดท้ายด้วยกันมุ่งเน้นไปที่เกมยุโรปจนเกินไปทำให้ผลงานในเกมลีกกับย่ำแย่ลงจนในที่สุดหลังจบฤดูกาล 2008 พวกเขาคว้าอันดับที่ 18 ของตารางเกาะกลุ่มอยู่ในโซนท้ายตารางทำให้ต้องล่วงตกชั้นลงไปในที่สุด หลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามทำผลงานใน เซเรีย บี ให้ดีขึ้นแต่กลับกลายเป็นหนังคนละม้วนทำให้ประธานสโมสรได้หากุนซือมารับช่วงต่ออยู่หลายคนแต่ก็ไม่สามารถจะยกระดับฟอร์มการเล่นของเอ็มโปลีไว้ได้และในฤดูกาล 2012 พวกเขาเกือบจะประคองให้อยู่รอดจาก เซเรีย บี ไว้ไม่ได้เมื่อจบอยู่ในอันดับที่ 18 ต้องเข้าทัวร์เกมเพลย์ออฟเพื่อหนีตกชั้นแต่ในปีนั้นพวกเขาก็ทำสำเร็จ และเป็นผลต่อมาอีกหนึ่งปีต่อมาเมื่อพวกเขาสามารถเข้าไปลุ้นเลื่อนชั้นจากการจบในอันดับ 4 แต่ก็น่าเสียดายเมื่อนัดสุดท้ายของการเพลย์ออฟ เอ็มโปลี กับไปแพ้ให้กับ ลิวอร์โน่ ไปอย่างหวุดหวิดจนตกติดอยู่ใน เซเรีย บี ต่อไปแต่แล้วในฤดูกาลต่อมาปี 2014 พวกเขาก็สามารถเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาได้อีกครั้งโดยจอดอยู่ในอันดับ 2 ของ เซเรีย บี ในรอบนี้พวกเขากลับขึ้นมาได้อยู่ 2 ฤดูกาลเท่านั้นก็ต้องล่วงตกชั้นลงไปอีกรอบและกลับมาอีกครั้งในฤดูกาลต่อมาด้วยการคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย บี อิตาลีมาครอง และนี่ก็เป็นไทม์ไลน์คร่าวๆของ อัซซูร์รี่ หรือ เอ็มโปลี ที่พวกเราแฟนบอลชาวไทยรู้จักแต่ก็ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ( Updated : 30-4-2020 )