ลิเวอร์พูล
( Liverpool )
website : https://www.liverpoolfc.com/
No. | Name | Type | Join | Out |
---|---|---|---|---|
7 | เจมส์ มิลเนอร์ | ผู้เล่น | 2015-06-01 | - |
- | เจอร์เก้น คล็อปป์ | โค้ช | 2015-10-08 | - |
14 | จอร์แดน เฮนเดอร์สัน | ผู้เล่น | 2011-07-01 | - |
13 | อาเดรียน | ผู้เล่น | 2019-08-05 | - |
32 | โจ มาติป | ผู้เล่น | 2016-07-01 | - |
6 | ติอาโก้ | ผู้เล่น | 2020-09-18 | - |
15 | อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน | ผู้เล่น | 2017-08-31 | - |
4 | เวอร์จิล ฟานไดจ์ค | ผู้เล่น | 2018-01-01 | - |
9 | โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ | ผู้เล่น | 2015-07-01 | - |
11 | โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ | ผู้เล่น | 2017-07-01 | - |
1 | อลิสซอน เบ็คเกอร์ | ผู้เล่น | 2018-07-19 | - |
26 | แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน | ผู้เล่น | 2017-07-21 | - |
3 | ฟาบินโญ่ | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
8 | นาบี เกอิต้า | ผู้เล่น | 2018-07-01 | - |
2 | โจ โกเมซ | ผู้เล่น | 2015-06-20 | - |
20 | ดิโอโก้ โชต้า | ผู้เล่น | 2020-09-19 | - |
29 | อาร์เธอร์ | ผู้เล่น | 2022-09-01 | 2023-06-30 |
21 | คอนสแตนตินอส ซิมิกาส | ผู้เล่น | 2020-08-10 | - |
66 | เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ | ผู้เล่น | 2016-07-01 | - |
62 | เคาออมิน เคลเลอร์ | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
18 | โคดี้ ฆัคโป | ผู้เล่น | 2023-01-01 | - |
5 | อิบราฮิม่า โกนาเต้ | ผู้เล่น | 2021-07-01 | - |
23 | ลูอิส ดิอัซ | ผู้เล่น | 2022-01-30 | - |
10189 | เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
17 | เคอร์ติส โจนส์ | ผู้เล่น | 2019-07-01 | - |
47 | นาธาเนียล ฟิลลิปส์ | ผู้เล่น | 2020-08-01 | - |
27 | ดราวิน นูเนซ | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
19 | ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ | ผู้เล่น | 2019-07-28 | - |
28 | Fabio Carvalho | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
22 | แคลวิน แรมซีย์ | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
46 | Rhys Williams | ผู้เล่น | 2020-07-01 | - |
8599 | Marcelo | ผู้เล่น | 2021-07-01 | - |
43 | Stefan Bajcetic | ผู้เล่น | 2022-07-01 | - |
Tournament | Join | Out |
---|---|---|
World Football Challenge | 2012-07-18 | 2012-08-10 |
Community Shield | 2022-07-29 | 2022-07-30 |
Premier League | 2022-08-05 | 2023-05-28 |
EFL Cup | 2022-08-01 | 2023-02-26 |
Champions League Grp. A | 2022-09-06 | 2022-11-01 |
Champions League Final Stage | 2023-02-13 | 2023-06-10 |
Club Friendlies | 2022-12-31 | 2023-12-30 |
FA Cup | 2022-11-03 | 2023-06-03 |
ประวัติ : ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล (Liverpool F.C.) ชื่อเต็ม (Liverpool Football Club) อยู่ในเมืองลิเวอร์พูล มณฑลเมอร์ซีไซด์ ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1892 โดย จอห์น โฮลดิ้ง นักธุรกิจท้องถิ่นและว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล เขาเริ่มจากการเช่าพื้นที่บริเณถิ่นแอนฟิลด์ (Anfield ) เป็นสนามการแข่งขัน และปล่อยให้ทางเอฟเวอร์ตันเช่า พอผ่านไปสักระยะเอฟเวอร์ตันก็เลือกที่จะย้ายออกไปสร้างสนาม กูดิสันพาร์ค (Goodison Park) เป็นของตนเอง ต่อมาสนามเริ่มไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ ทางด้าน จอห์น โฮลดิ้ง เลยหันมาจัดตั้งเป็นสโมสรของตัวเอง โดยการชวนเพื่อนสนิมอย่าง จอห์น แมคเคนน่า ให้มาทำหน้าที่เป็นประธานสโมสร และช่วยกันตั้งชื่อสโมสรใหม่ขึ้นมาว่า (Liverpool Football Club) หลังจากนั้นไม่นานสโมสรก็ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่สำคัญถึง 2 ครั้ง คือ โศกนาฏกรรมเฮย์เซล เมื่อปี ค.ศ. 1985 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน และโดนสโมสรทางยุโรปแบนเป็นระยะเวลา 6 ปี ต่อมาอีกไม่กี่ปีก็เกิดภัยพิบัติฮิลส์โบโร่อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1989 จนทำให้แฟนบอลของสโมสรเสียชีวิตเพิ่มอีก 96 คน ทั้ง 2 เหตุการณ์เกี่ยวข้องกับอัฒจันทร์ทั้งหมด ก่อนที่จะมีการปรับปรุงและพัฒนามากลายเป็นสนามฟุตบอลที่ได้รับการรับรองจากสมาคมฟุตบอลยุโรปให้เป็นสนามระดับ 4 ดาว โดยสนามดังกล่าวถูกจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติและรายการใหญ่มากมาย รวมถึงการแข่งขันของทีมชาติอังกฤษด้วยที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร ในปี ค.ศ. 1996 ปัจจุบันสนามแอนฟิลด์รองรับแฟนบอลได้ 54,157 ที่นั่ง และมีแผนขยายความจุให้เป็น 60,000 ที่นั่ง ในอนาคต สโมสรลิเวอร์พูลมีการแข่งขันที่ยาวนานกับสโมสรเพื่อนบ้านอย่างเอฟเวอร์ตันและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยการแข่งขันกับ เอฟเวอร์ตัน ถูกเรียกว่า “ศึกเมอร์ซีย์ไซด์” ส่วนการแข่งขันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกเรียกว่า “ศึกแดงเดือด” หรือเป็นที่ทราบกันว่า เป็นคู่อริประจำสโมสรนั่นเอง ต่อมาลิเวอร์พูลได้เปลี่ยนแปลงจากเสื้อสีแดงและกางเกงขาสั้นสีขาวมาเป็นสีแดงเต็มตัว ในปี ค.ศ. 1964 และมีฉายาในนามภาษาไทยว่า “หงส์แดง” พร้อมด้วยคำขวัญประจำสโมสรว่า “Youll Never Walk Alone” ในความหมายที่ว่า ความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว หรือที่หลายคนเรียกว่า “คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย” ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล อยู่ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp)
ลิเวอร์พูล คือ หนึ่งสโมสรใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งรายการนานาชาติ รายการในประเทศ และรายการทางทวีปยุโรป แล้วลิเวอร์พูลก็กลายเป็นสโมสรแห่งแรกของอังกฤษที่ได้รับรางวัลระดับโลกในปีเดียวกัน “ค.ศ. 2019” คือ ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ (Club World Cup), ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (UEFA Champions League) และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ (UEFA Super Cup) เกียรติประวัติแชมป์ทั้งหมดของ ลิเวอร์พูล หรือ “หงส์แดง” : ระดับโลก แชมป์ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ หรือ แชมป์สโมสรโลก (1 สมัย) : ระดับทวีปยุโรป แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (6 สมัย), แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก (3 สมัย), แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ (4 สมัย) : ระดับประเทศ ดิวิชั่น 1 (18 สมัย), ดิวิชั่น 2 (4 สมัย), เอฟเอฟคัพ (7 สมัย), อีเอฟแอลคัพ หรือ คาราบาวคัพ (8 สมัย), ซูเปอร์คัพ (1 สมัย) เอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ (15 สมัย), แชริตี้ ชิลด์ (1 สมัย)
ตราสโมสรของ ลิเวอร์พูล ถูกเปลี่ยนแปลงอยู่ 8 ครั้ง โดย “ครั้งที่ 1” เปลี่ยนแปลงในปี ค.ศ. 1950-1955, “ครั้งที่ 2” ในปี ค.ศ. 1955-1968, “ครั้งที่ 3” ในปี ค.ศ. 1968-1987, “ครั้งที่ 4” ในปี ค.ศ. 1987-1992, “ครั้งที่ 5” ในปี ค.ศ. 1992-1993, “ครั้งที่ 6” ในปี ค.ศ. 1993-1999, “ครั้งที่ 7” ในปี ค.ศ. 1999-2012, “ครั้งที่ 8” ในปี ค.ศ. 2012-ถึงปัจจุบัน
ตั้งแต่ก่อตั้งมา ลิเวอร์พูลเริ่มสวมชุดแข่งในสีเสื้อน้ำเงินขาวและกางเกงสีกรม เป็นชุดเหย้าของทีม ก่อนที่จะมีการแปลงเปลี่ยนมาเป็นเสื้อสีแดงและกางเกงสีขาว ในปี ค.ศ.1896 และมีการสลับไปมาจนถึง ปี ค.ศ. 1964 แล้วในปีเดียวกันนั้นสโมสรก็ได้เปลี่ยมมาสวมใส่สีแดงล้วนทั้งชุดเป็นครั้งแรก ส่วนชุดเยือนก็มีหลากหลายสีที่สลับใช้ในแต่ละปี ค.ศ. อาทิ เช่น สีเหลือง สีทอง สีเทา สีเขียว สีดำ สีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น แล้วลิเวอร์พูลก็เป็นสโมสรแรกในระดับมืออาชีพที่มีโลโก้ของสปอนเซอร์บนเสื้อของตัวเอง หลังจากเห็นพ้องกับข้อตกลงกับบริษัท ฮิตาชิ ในปี ค.ศ. 1979 นับตั้งแต่นั้นมาสโมสรก็ได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัท อาทิ เช่น คราวน์ เพนต์ (Crown Paints), แคนดี้ (Candy), คาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) และ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) ส่วนสปอนเซอร์หลักก็มี อัมโบร (Umbro) ในปี ค.ศ. 1973-1985, อาดิดาส (Adidas) ในปี ค.ศ 1985-1996, รีบอค (Reebok) ในปี ค.ศ. 1996-2006, อาดิดาส (Adidas) ในปี ค.ศ. 2006-2012, วอร์ริเออร์ (Warrior) ในปี ค.ศ. 2012-2015, นิวบาลานซ์ (New Balance) ในปี ค.ศ. 2015-2020 และไนกี้ (Nike) ในปี ค.ศ. 2020-ปัจจุบัน
ฐานแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกมีมากกว่า 200 สาขา และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก Association of International Branches (AIB) ว่ามีอย่างน้อย 50 ประเทศที่ติดตาม แฟนคลับลิเวอร์พูลได้สถาปนาตนเองว่าเป็น เดอะ ค็อป หรือทางศัทท์อังกฤษเรียกว่า (Kopites) แสดงถึงการเป็นหนึ่งของสโมสรที่คอยเชียร์ตลอดเวลาที่ลงแข่งขัน ส่วนที่มาของเพลง "You will never walk alone" มาจากการร้องของ Oscar Hammerstein II ที่แต่งขึ้นมาใช้ในการแสดงละครเพลงบอร์ดเวย์เรื่อง Carousel ต่อมาได้มีการบันทึกเสียงใหม่จากนักดนตรีจากเมืองลิเวอร์พูลอย่าง Gerry and the Pacemakers ในปี ค.ศ 1960 จนได้รับความนิยมจากแฟนคลับสโมสรอื่นๆ ทั่วโลก และเพลงนี้ก็ได้ประดับอยู่บนประตู Shankly Gates โดยมาจากการประดับเกียรติยศให้กับอดีตผู้จัดการทีมที่ชื่อว่า “Bill Shankly” แล้วก็ถูกนำไปใส่ไว้ด้านบนของตราสัญลักษณ์สโมสร ในช่วงปี ค.ศ. 2015 สโมสรได้สำรวจความนิยมจากแฟนคลับทั่วโลกผ่านทางทวิตเตอร์ ปรากฏว่า ประเทศไทย มีฐานแฟนบอลลิเวอร์พูลมากที่สุด โดยคิดเฉลี่ยเป็นร้อยละ 29.6 ส่วนในประเทศอังกฤษ ถูกคิดเป็นร้อยละ 15.21
เริ่มก่อตั้งมาสโมสรมีกัปตันทีมทั้งหมด 45 คน ที่ได้รับคัดเลือก โดยที่ แอนดรูว์ ฮานนาห์ เป็นกัปตันทีมคนแรกของสโมสร แล้วกัปตันทีมที่อยู่กับสโมสรยาวนานที่สุด คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด รวมทั้งหมด 12 ฤดูกาล ส่วนกัปตันทีมคนปัจจุบัน คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน