ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือเรีกกันย่อๆว่า เปแอชเช (PSG) เป็นสโมสรฟุตบอลที่เกิดขึ้นมาเมื่อปี คศ .1970 ก็ไม่ได้ยาวนานมากเท่าไหร่สำหรับสโมสรฟุตบอลยุโรปหากเทียบกับทีมใหญ่ในต่างลีก แต่เรื่องของชื่อชั้นและผลงานจัดว่าจัดจ้านไม่เป็นสองรองใคร ปารีสฯ ปัจจุบันลงเล่นอยู่ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส อย่างรายการ ลีกเอิง พวกเขาเป็น 1 ใน 2 สโมสรที่ยืนหยัดอยู่ในดิวิชั่น 1 ได้ยาวนานที่สุดโดยจำนวนฤดูกาลที่พวกเขาอยู่ในตาราง ลีกเอิง นั้นมากถึง 45-46 ฤดูกาลแล้วโดยเริ่มตั้งแต่ปี 1974 จุดเริ่มต้นของพวกเขาเดิมทีเกิดขึ้นจากกลุ่มนักธุรกิจที่มีความคิดริเริ่มในการลงทุนเกี่ยวกับด้านวงการกีฬาพวกเขาจึงหารือกันแล้วก่อตั้งสโมสรขึ้นมาในวันที่ 12 สิงหาคม 1970 เป็นทีมฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสก็คือเมือง ปารีส นั่นเองต่อมาพวกเขาตัดสินใจที่จะรวมสโมสรกับทางด้าน Paris FC กับ Stade Saint-Germain แต่หลังจากที่รวมทีมกันได้พวกเขาก็แบ่งสโมสรเป็น 2 ทีมโดยทีม ปารีส เอฟซี ยังคงได้โล้ดแล่นอยู่ในดิวิชั่นสูงสุด ส่วน เปแอชเช ต้องลงมาเล่นในศึกดิวิชั่น 3 การเริ่มต้นเส้นทางของ เอแอชเช ในดิวิชั่น 3 นั้นด้วยการเข้ามามีส่วนร่วมของทาง Daniel Hechter ดีไซน์เนอร์ชื่อดังของกรุงปารีสที่เข้ามาสนับสนุนช่วยสโมสรและยังมีกุนซือระดับแข้งในตำนานอย่าง Just Fontaine เขาสามารถพาทีม PSG เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่นสูงสุดได้สำเร็จตั้งแต่ฤดูกาล 1974 สโมสรแห่งนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนบอลในปารีสเป็นอย่างมากเนื่องจากการเข้ามาทำงานของ Just Fontaine ที่เริ่มดึงนักเตะดาวดังของสโมสรร่วมประเทศอย่าง Mustapha Dahleb และ Carlos Bianchi ที่ย้ายมาจากสโมสร เร้ดแอนด์บลูส์ ต่อมาในปี 1978 ประธานคนเก่าอย่าง ดาเนี่ยล เฮชเตอร์ ตัดสินใจลาออกและส่งตำแหน่งต่อให้กับ ฟรานซิส บอเรลรี่ ด้วยแรงผลักดันของแฟนบอลในเมืองหลวงจำนวนมากที่คอยให้กำลังใจสโมสรและให้ความสนับสนุนกับทีมฟุตบอลแห่งนี้ทำให้ในที่สุดทีมก็สามารถคว้าแชมป์บอลถ้วยรายการใหญ่ที่สุดของระดับประเทศอย่าง Coupe de France ได้สำเร็จในปี 1982 โดยการเอาชนะการดวลจุดโทษกับสโมสร แซงต์ เอเตียน หลังจากเกมใน 90 ยาวมาจนถึงต่อเวลาพิเศษเสมอกันไป 2-2

อีกหนึ่งปีต่อมาฤดูกาล 1983 พวกเขาสามารถป้องกันแชมป์ กรุ๊ป เดอ ฟร้อง ได้อีกครั้งนับเป็นเกรียติประวัติครั้งยิ่งใหญ่ของทีมที่เป็นแชมป์รายการใหญ่ได้ 2 สมัยติดต่อกัน และต่อมาในปี 1986 พวกเขาก็มาได้แชมป์ฟุตบอล ลีกเอิง ฝรั่งเศส นับเป็นครั้งแรกของสโมสรที่ได้ชัยชนะในเกมลีกสูงสุด โดยมีผู้เล่นชุดเดิมที่ช่วยพาทีมได้แชมป์มาครอง นำทีมโดย ซัลเฟต ซูชิช, หลุยส์ เฟอร์นานเดซ และ โดมินิเก้ รอชเอตัว อย่างไรก็ตามสโมสรเมื่อเดินมาถึงความก้าวหน้าในจุดหนึ่งพวกเขาก็ถึงคราวที่ต้องตกอับหลังจากในช่วงปี 1990 เป็นปีที่พวกเขาประสบปัญหารายอย่างทำให้ฟอร์มการเล่นของพวกเขาดูจะดร็อปลงไปเยอะมากๆและห่างหายไปในการลุ้นแชมป์อยู่หลายปี จนต่อมาการรับช่วงตัวของ กานาลปลุส (Canal+) สถานีโทรทัศน์เรื่องชื่อในฝรั่งเศสได้เข้ามาควบกิจการของสโมสรภายหลังเริ่มมีแนวโน้มไปในทางที่ดีสโมสรเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งในฤดูกาล 1992-93 เปแอชเช ได้อันดับรองแชมป์รายการ ลีกเอิง ฝรั่งเศส และยังมาได้แชมป์บอลถ้วย กรุ๊ป เดอ ฟร้องส์ อีกโดยเกมนัดชิงที่ครองแชมป์มาได้มาจากกันเอาชัยเหนือ น็องต์ ไปด้วยประตูชัย 3-0 และในฤดูกาล 1995 พวกเขากลับมาได้แชมป์ กรุ๊ป เดอ ฟร็องส์ ได้อีก 1 สมัยด้วยการเก็บชัยชนะเหนือ สตาร์สบูร์ก ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 รวมไปถึงการคว้าแชมป์ในรายการ ทรอเฟเดช็องปียง มาครองร่วมด้วย ต่อมาอีกหนึ่งฤดูกาล ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรในฝรั่งเศสด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่างรายการ ยูฟ่า วินเนอร์สคัพ คือถ้วยฟุตบอลในทวีปยุโรปที่รวบรวมเอาทีมที่เป็นแชมป์ในระดับประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรปเข้ามาชิงความเป็นใหญ่ในเรื่องของฟุตบอล นับเป็นครั้งแรกของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ได้ถ้วยรายการนี้มาครอง โดยในนัดชิงชนะเลิศ เปแอชเช เป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะ ราปิด เวียนนา สโมสรจากประเทศออสเตรียไปได้ด้วยสกอร์ชัย 1-0 คนที่เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยในเกมดังกล่าว คือ บรูโน่ เอ็น ก็อตตี้ และจบด้วยการเป็นรองแชมป์ ลีกเอิง ฝรั่งเศส อีกครั้ง ในปีต่อมาฤดูกาล 1997 และ 1998 สโมสรเก็บถ้วยแชมป์รายการ กรุ๊ป เดอ ฟร็องส์ ได้อีกครั้งรวมแล้วเป็น 5 ครั้งตั้งแต่ที่พวกเขาเคยได้มาอีกทั้งยังได้มาอีก 2 แชมป์ในเวลาเดียวกันนั้นก็คือรายการ ทรอเฟเดช็องปียง และ กุปเดอลาลีกเอิง (คือรายการแข่งขันที่จะขึ้นจากสมาพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสโดยการคัดเลือกเอาทีมจากลีก 1-3 ของประเทศเข้ามาแข่งขันกันโดยผู้แพ้จะเป็นฝ่ายตกรอบในทันทีไม่มีการแข่งขันแบบนัดเหย้าเยือน) และเป็นอีกสมัยหนึ่งที่พวกเขาเป็นได้แค่รองแชมป์ลีกเอิง ย้อนกลับไปเจอข้อมูลมาคร่าวๆว่าช่วงฤดูกาล 1994-1995 สโมสรสามารถผ่านทะลุเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ถึงรอบรองชนะเลิศอีกด้วย

หลังจากที่เข้าสู่หน้าศักราชใหม่ปี 2000 สโมสรก็ประสบปัญหาใหญ่อีกครั้งนั่นก็หมายถึงเรื่องของการเงินที่ไม่ค่อยคร่องตัวสักเท่าไหร่ ทำให้สโมสรไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ในช่วงยุคเปลี่ยนถ่าย พวกเขาได้แชมป์รายการ อินเตอร์โตโต้ คัพ ในปี 2001 ถึงแม้สโมสรจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเงินได้ดีขึ้นมาแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดในยุคนั้นมีนักเตะในตำนานที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้ด้วย โดยมีทั้ง โรนัลดินโญ่ ,มาร์โก้ ซิโมเน่ และ เปาเลต้า ต่อมาในปี 2006 หลังจากที่ Canal+ อยู่คู่กับสโมสรมายาวนานพวกเขาตัดสินใจขายสโมสรให้กับ Colony Capital และดูเหมือนว่าการขายสโมสรครั้งนี้จะเริ่มทำให้ทีมเริ่มกลับมามีผลงานที่ดีได้อีกครั้งหนึ่ง จนมีกลุ่มนายทุนใหญ่จากการ์ต้า เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเรียกได้ว่าจู่ๆสโมสรก็กลายเป็นทีมที่มีเงินถุงเงินถังใช้กันเลยทีเดียวจนพวกเขาถุกเหล่าบรรดาสื่อตั้งฉายาให้ว่าเป็นทีม มหาเศรษฐี ในยุคเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มนายทุนอาหรับภายใต้ประธานสโมสรอย่าง อัล-เคไลฟี่ เจ้าของกิจการ Qatar Sports Investments (QSi) ที่เข้ามาเปลี่ยนจนสโมสรประสบความสำเร็จในระดับเกมลีกของประเทศมากมายไม่ว่าจะเป็นแชมป์ในประเทศรายการไหน ปารีส ก็กลับมาคว้าเอาไปครองได้ทั้งหมด แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้เงินถุงเงินถังที่มีเข้ามาช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จได้มากเพียงใด แต่ ปารีส ก็ยังไม่สามารถเข้าใกล้กับการเป็น เจ้ายุโรป เหมือนกับ ทีมใหญ่ๆต่างลีกอย่าง อังกฤษ หรือ สเปน ที่ได้แชมป์ บอลถ้วย รายการ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก มาครองได้เป็นว่าเล่น ยกตัวอย่าง ลิเวอร์พูล สโมสรใน พรีเมียร์ลีก หรือ เรอัล มาดริด สโมสรจาก ลาลีก้า สเปน รวมไปถึง เอฟซี บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจาก บุนเดสลีก้า เยอรมัน

นอกจากนั้นแล้วด้วยอำนาจเงิน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในยุคของ อัล เคไฟลี่ มีการเซ็นต์นักเตะชื่อดังของยุโรปเข้าทีมมากมายอาทิเช่น จานลุยจิ บุฟฟ่อน สุดยอดนายทวารมือหนึ่งของ อิตาลี่ หรือจะเป็น เดวิด เบ็คแฮม ดาวยิงฟรีคริกของทีมชาติอังกฤษ รวมไปถึงมหาเทพ ซลาตัน อิบราโมวิช กองหน้าผู้ฝีเท้าเทพเจ้าเลือดสวีเดน และยังมี อังเดร ดิมาเรีย เอดิสัน คาวานี่ และยังมีสุดยอดกองหน้าค่าตัวมหาศาสอย่าง เนย์มาร์ ที่ทุ่มเงินดึงตัวมาจาก บาร์เซโลน่า ด้วยสถิติโลกที่ไม่เคยมีทีมไหนยอมใช้เงินมากมายขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งยังมีอนาคตนักเตะดาวรุ่งค่าตัวแพงกว่า เนย์มาร์ อย่าง คิเลียน เอ็บบัปเป้ สูญหน้าจอมสังหารดาวดวงใหม่ไฟแรงที่พากองทัพทีมชาติฝรั่งเศสเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2020 นักเตะเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นนักเตะแถวหน้าของวงการฟุตบอลที่สโมสรทุ่มเงินมหาศาลดึงตัวให้พวกเขาเหล่านี้ย้ายมาร่วมทีม นับตั้งแต่การเข้ามาของ อัล ไคเลฟี่ ประธานใหญ่ชาวอาหรับสโมสรเริ่มกลับมาเฟื่องฟูได้ตั้งแต่ปี 2012 มาจนถึงปัจจุบัน ปารีส ยังคงเป็นทีมอันดับ 1 ของประเทศฝรั่งเศสที่เหมือนว่าจะผูกขาดกับแชมป์ลีกไปแล้วถึงแม้ว่าในระดับเกมลีกจะมีหลายๆทีมที่ขุมกำลังแข็งแกร่ง อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย,โอลิมปิก ลียง, ลีลล์ หรือ เอเอส โมนาโก ก็ยังไม่สามารถล้มล้างยัดเหยียดความปราชัยให้กับ ปารีสฯ พลาดในการคว้าแชมป์ได้เลย จนแล้วจนเล่าบอลถ้วยเดียวที่สโมสรแห่งนี้ต้องการมากที่สุดในเวลานี้ก็คือการเป็นเจ้าแห่งลูกหนังยุโรป นั่นก็คือการเป็นแชมป์ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และการแข่งขันในฤดูกาลในปัจจุบัน ปารีสผ่านเข้ารอบ 3 2 ทีมด้วยฐานะแชมป์กลุ่มผ่านทะลุเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยในการเจอกับทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่เนื่องจากวิกฤติหนักของระดับโลกที่มีการแพร่เชื้อของไวรัสโคโรน่า หรือ โควิท-19 ทำให้สมาคมฟุตบอล FIFA กำหนดให้มีการเลื่อนการแข่งขันออกไปจนกว่าเชื้อวัยรัสจะหายไปจากโลกนี้หรือมีวิธีรักษาป้องกันการระบาดได้แล้ว ปัจจุบัน เปแอชเช ยังคงเป็นทีมวางอันดับ 1 ในลีกเอิงที่กำลังลงเล่นอยู่แม้จะแข่งขันกันยังไม่จบแต่พวกเขาก็ลอยลำอยู่อันดับ 1 เหนือทีมอื่นที่ไล่ตามหลังมาอยู่หลายคะแนน คิดว่าแฟนบอลของ ปารีส คงเบาใจไปได้หลายเปราะสำหรับการลุ้นแชมป์ในปีนี้ ( Updated : 15-4-2020 )