TDEDKICK.COM

อลาเบส

( Deportivo Alaves )


website : https://www.deportivoalaves.com/
No. Name Type Join Out
8581 นิโกล่า มาร์ราส ผู้เล่น 2023-07-01 -
15 กีเก้ ผู้เล่น 2023-08-13 -
- Luis Garcia โค้ช 2022-07-01 -
3 รูเบน ดูอาร์เต้ ผู้เล่น 2017-07-01 -
1 อันโตนิโอ ซิเวร่า ผู้เล่น 2017-07-19 -
11 หลุยส์ ริโอฆ่า ผู้เล่น 2019-07-01 -
8548 ยานิส ฮาจี้ ผู้เล่น 2023-08-27 2024-06-30
4 อเล็กซานดาร์ เซดลาร์ ผู้เล่น 2022-07-05 -
18 โจน กูริดี้ ผู้เล่น 2022-07-11 -
23 คาร์ลอส เบนาวิเดซ ผู้เล่น 2022-07-01 -
2 อันโดนี่ โกโรซาเบล ผู้เล่น 2023-08-11 -
8 Antonio Blanco ผู้เล่น 2023-07-25 -
14 Nahuel Tenaglia ผู้เล่น 2023-08-20 -
6 อันเดร์ กูเอบาร่า ผู้เล่น 2023-07-09 -
8560 อเล็กซ์ โซล่า ผู้เล่น 2023-09-01 2024-06-30
7854 มีเกล เดอ ลา ฟวนเต ผู้เล่น 2021-08-23 -
5 Abdelkabir Abqar ผู้เล่น 2022-07-01 -
6493 Abdallahi Mahmoud ผู้เล่น - -
17 Xeber Alkain ผู้เล่น 2022-07-01 -
44 Victor Parada ผู้เล่น - -
31 Jesus Owono ผู้เล่น 2022-07-01 -
8400 Alan Godoy ผู้เล่น 2023-07-01 -
33 อาร์เดรียน โรดริเกซ ผู้เล่น - -
27 Javi Lopez ผู้เล่น 2019-07-01 -
21 Abderrahman Rebbach ผู้เล่น 2022-07-01 -
20 Giuliano Simeone ผู้เล่น 2023-07-21 2024-06-30
22 Carlos Vicente ผู้เล่น 2024-01-01 -
96925 Alex Balboa ผู้เล่น 2023-07-01 -
16 Rafa Marin ผู้เล่น 2023-07-28 2024-06-30
30 Tomas Mendes ผู้เล่น - -
29 Joaquin Panichelli ผู้เล่น 2023-01-13 -
32 Samuel Omorodion ผู้เล่น 2023-08-26 2024-06-30
43 Ruben Montero ผู้เล่น - -
36 Egoitz Munoz ผู้เล่น - -
Tournament Join Out
LaLiga 2023-08-11 2024-05-26
Copa del Rey 2023-10-30 2024-04-06

ประวัติ : อลาเบส

อลาเบส (Alaves) ชื่อเต็ม (Deportivo Alaves, S.A.D.) อยู่เมือง บิโตเรีย กัสเตอิซ ในเขตปกครองตนเองของแคว้นประเทศบาสก์ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1921 โดยใช้ชื่อว่า “สปอร์ต คลับ เพื่อน” (Sport Friend Club) ก่อนที่จะมาเปลี่ยนชื่อเป็น “อลาเบส” แล้วก็เป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 ได้ เลยทำให้ปีต่อมาได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ในปี ค.ศ. 1930 แต่ก็อยู่ได้นานสุดเพียง 3 ปีเท่านั้น ก็ต้องตกชั้นลงไปอีก โดยปีแรก ค.ศ.1931 จบในอันดับที่ 8 ส่วนในปีที่สอง ค.ศ. 1932 จบในอันดับที่ 9 และปีสุดท้าย ค.ศ. 1933 จบในอันดับที่ 10 ณ ตอนนั้นการแข่งขันระดับสูงสุดของประเทศมีสโมสรน้อยกว่าปัจจุบันอยู่ประมาน 1 เท่า หรือ 10 ส่วน 20 หลังจากที่ร่วงหล่นลงมาดิวิชั่น 2 ก็ยังทำผลงานได้ย่ำแย่เหมือนเดิม จนในที่สุดก็ตกลงไปเล่นในดิวิชั่น 3 ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นหลังจากที่คว้าแชมป์ดิวิชั่น 3 ได้ ในปีถัดมาก็ขึ้นมาจบในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนดิวิชั่น ก่อนที่ปี ค.ศ. 1943 จะรั้งท้ายตารางอันดับที่ 8 ส่งผลให้ อลาเบส ตกลงสู่ดิวิชั่น 3 อีกครั้ง แล้วก็ใช้เวลานานถึง 8 ปี ก่อนที่จะหวนขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 2 ได้ใหม่ ในฐานะทีมอันดับที่ 2 แล้วการกลับขึ้นมาครั้งนี้เหมือน อลาเบส จะแข็งแกร่งขึ้น ช่วง 3 ปีที่อยู่ดิวิชั่น 2 จบในอันดับเดี่ยวตลอด แล้วปีสุดท้ายก็ผงาดคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี นับว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต่อสโมสร ภายใต้การคุมทีมของ Roman Galarraga ด้วยมาตรฐานการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอทำให้ อลาเบส อยู่ได้อีก 2 ปี ก็ร่วงหล่นไป ในช่วง 14 ปีที่วนเวียนอยู่ดิวชั่น 2 กับดิวิชั่น 3 อลาเบสสามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่นได้ถึง 3 ครั้ง แต่เหตุการณ์ที่แฟนบอลไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1970 เพราะสโมสรหล่นไปเล่นระดับภูมิภาค นับว่าเป็นผลงานที่ตกต่ำที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา

ด้วยรากฐานการเล่นที่มีความเป็นอาชีพกว่าสโมสรอื่นในภูมิภาคเลยทำให้ปี ค.ศ. 1971 คว้าแชมป์ลีกภูมิภาคมาได้ พร้อมกับทบเท้าขึ้นสู่ดิวิชั่น 3 อีกครั้ง หลังจากนั้นก็สร้างสรรค์ผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปี ค.ศ. 1974 ก็ก้าวขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ตามลำดับในฐานะแชมป์ เหมือนว่าจะถึงจุดสูงสุดของสโมสรในยุคนั้นแล้ว เพราะไม่สามารถขึ้นไปติดหัวตารางดิวิชั่น 2 ได้เลยสักปี ทำได้ดีที่สุดแค่จบในอันดับที่ 8 ตอนปี ค.ศ. 1977 และ 1981 ต่อมาสหพันธ์ฟุตบอลสเปนได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการแข่งขันใหม่ ส่งผลให้สโมสรหล่นไปเล่น ดิวิชั่น 2 บี หรือ เซกุนด้า ดีบีซีออน อีก 3 ปี แต่ว่าผลงานก็ยังดิ่งลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1986 สโมสรถึงกับต้องลงไปเล่นใน เตร์เซร่า ดีบีซีออน แต่ทางด้าน อลาเบส ก็ใช้เวลาฟื้นฟูเพียงไม่กี่ปี โดยเฉพาะช่วงปี ค.ศ. 1989 สโมสรเกือบจะเลื่อนชั้นได้แล้ว แต่ก็ไม่ผ่านรอบเพลย์ เลยทำให้ปีต่อมาสโมสรมุ่งมั่นกว่าเดิมและต้องการที่จะจบในอันดับที่ 1 หรือจบในฐานะแชมป์ให้ได้ แล้วในที่สุดก็เป็นไปตามความคาดหมาย และการขึ้นมาสู่ เซกุนด้า ดีบีซีออน ครั้งนี้ทำผลงานได้ดีทุกปี โดยปีแรกจบในอันดับที่ 2 และปีที่สองก็จบในอันดับที่ 4 ส่วนอีก 2 ปีต่อมาจบในอันดับที่ 1 ทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้สิทธิในการเลื่อนชั้น เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์ของสมาพันธ์ฟุตบอลสเปน จนถึงปี ค.ศ. 1995 สโมสรก็ปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน แล้วปีนั้นสโมสรก็จบในอันดับที่ 1 อีกครั้ง พร้อมกับได้สิทธิในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ เซกุนด้า ดิวิชั่น ด้วย ช่วง 2 ปีแรก ปรับตัวไม่ค่อยได้กับระบบการเล่นของคู่แข่งเลยทำให้จบในอันดับที่ 7 และที่ 13 ตามลำดับ

และปีที่ 3 อลาเบส ก็สร้างความฮือฮาให้กับเหล่าแฟนบอลเป็นอย่างมากด้วยการกลับขึ้นไปเล่นบนลีกสูงสุดของประเทศอย่าง ลาลีก้า สเปน หลังจากห่างหายไปนานถึง 42 ปี ในปีแรกที่ขึ้นมาก็แย่เหมือนเดิม เกือบจะตกชั้น แต่ก็หลุดรอดออกโซนอันตรายมาได้ในช่วงโค้งสุดท้าย ส่วนปีต่อมาจบในอันดับที่ 6 เลยได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันระดับทวีปยุโรปอย่างยูฟ่าคัพได้เป็นครั้งแรก แล้วก็สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าคัพไปได้ ก่อนที่จะพ่ายต่อยอดทีมดังจากอังกฤษอย่างลิเวอร์พูลไป 5 ประตูต่อ 4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ถึงแม้สโมสรจะตกรอบ แต่ก็ได้รับการชื่นชมจากหลายฝ่ายว่าเป็นเกมการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสโมสรอีก 1 เกม ในช่วงปี ค.ศ. 2002 สโมสรจบในอันดับที่ 7 เลยได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่าคัพเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็โดนทางด้าน เบซิคตัส ทีมจากตุกรีสกัดตกรอบ แล้วในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2003 สโมสรก็ฉลองชัยชนะเป็นครั้งที่ 100 ด้วยการเอาชนะ เรอัล บายาโดลิด ไป 3 ประตูต่อ 1 แต่ในปีนั้นก็เป็นปีที่ อลาเบส ทำผลงานได้ไม่ดี เลยจบในอันดับที่ 19 พร้อมกับตกชั้นไปในที่สุด แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยการเข้ามาของนักธุรกิจชาวยูเครนอเมริกันอย่าง Dmitry Pietrman ในฐานะตำแหน่งประธานสโมสร ต่อมา อลาเบส ก็ได้ลงเล่นในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นทั้ง 2 ปี ก่อนที่ปีสุดท้ายจะเบียดขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้ ถึงอย่างไรแล้วก็ขึ้นมาได้เพียงปีเดียวก็ตกไปอีก แล้วช่วงเวลานั้นก็ประสบปัญหาหนี้สินด้วย เลยทำให้สโมสรหล่นไปเล่น เซกุนด้า ดีบีซีออน พร้อมกับ Pietrman ตัดสินใจลาออกจาการเป็นประธานสโมสร

จากนั้น โฆเซ่ อันโตนิโอ เควอเร เจต้า (Jose Antonio Querejeta) ก็เข้ามาเทคโอเวอร์ต่อ และทุ่มทุนทำทีมให้กับผู้จัดการทีม จนสโมสรก้าวขึ้นสู่ เซกุนด้า ดิวิชั่น ได้ ในปี ค.ศ. 2014 ในช่วงปีแรกก็เหมือนกับที่ผ่านมาเด๊ะ เกือบจะเอาตัวไม่รอดหลังจากจบในอันดับที่ 18 แล้วปีที่สองก็ขยับขึ้นมาใกล้ชิดกับโซนกลางตาราง ก่อนที่ปี ค.ศ. 2016 จะระเบิดฟอร์มโหด เข้าป้ายในฐานะแชมป์ เซกุนด้า ดิวิชั่น พร้อมกับก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง และในปีแรกที่ประเดิมบนเวที ลาลีก้า สโมสรสามารถผ่านทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโกปาเดลเรย์เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรด้วย แต่ก็จบที่ตำแหน่งรองแชมป์ หลังจากแพ้ต่อ บาร์เซโลน่า ส่วนปีถัดมาก็จอดที่รอบรองชนะเลิศ แล้วผลงานการเล่นใน ลาลีก้า ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ปัจจุบัน อลาเบส อยู่ภายใต้การคุมทีมของ อาเซียร์ การิตาโน่ (Asier Garitano)

เกียรติประวัติแชมป์ทั้งหมดของ เดปอร์ติโบ อลาเบส หรือ “อลาเบส” : ระดับทวีปยุโรป รองแชมป์ ยูโรป้าลีก (1 ครั้ง) : ระดับประเทศ แชมป์ เซกุนด้า ดิวิชั่น (4 สมัย), แชมป์ เซกุนด้า ดีบีซีออน (4 สมัย), แชมป์ เตร์เซร่า ดีบีซีออน (5 สมัย), รองแชมป์โกปาเดลเรย์ (1 ครั้ง), แชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า (1 สมัย), แชมป์ บิสเคย์ แชมเปี้ยนส์ชิพ (1 สมัย), แชมป์ กิปุซโกล แชมเปี้ยนส์ชิพ (1 สมัย) ) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1923 ถึง ปัจจุบัน อลาเบส ลงแข่งขันไปแล้วทั้งหมด 89 ฤดูกาล ได้แก่ ลาลีก้า สเปน 15 ฤดูกาล, เซกุนด้า ดิวิชั่น 37 ฤดูกาล, เซกุนด้า ดีบีซีออน 12 ฤดูกาล, เตร์เซร่า ดีบีซีออน 22 ฤดูกาล และลงแข่งขันในรายการภูมิภาคอีก 3 ฤดูกาล

ตราสโมสรของอลาเบส เริ่มต้นด้วยความซับซ้อนในสัญลักษณ์ ช่วงแรกปี ค.ศ. 1921 เป็นทรงสี่เหลี่ยมโดยมีโครงเว้าด้านล่างโค้งแล้วมาบรรจบเป็นสามเหลี่ยมเล็กๆ ด้านในมีป้อมปราการอยู่ 2 ป้อม พร้อมกับสิงโตแดง 3 ตัว และแขนของอัสวินถือธงน้ำเงินครามขาว นอกจากนี้ยังมีวงกลมด้านบนสลักด้วยตัวอักษร “DA” แล้วช่วงปีเดียวกันนั้นก็ได้ปรับเปลี่ยนเหลือแค่ ธงน้ำเงินครามขาว เสาสีทอง พร้อมกับตัวอักษร “DA” เหมือนเดิม ในช่วงปี ค.ศ. 1923 ปรับเปลี่ยนเพียงตัวอักษร จาก “DA” เป็น “CDA” ในปี ค.ศ. 1950 มีการปรับเปลี่ยนยิ่งใหญ่ด้วยการนำมงกุฏเข้ามาสวมอยู่ด้านบนรูปวงกลม และได้เอาส่วนละเอียดของสัษลักษณ์ในปีแรกมาใส่ ได้แก่ ป้อมปราการ 1 ป้อม สิงโตแดง 1 ตัว และแขนของอัสวินถือกระบี่ รวมถึงธงน้ำเงินครามขาว ทับกลางวงกลม ในปี ค.ศ. 1986 ก็กลับไปใช้อันเดิมของปี ค.ศ. 1921 ก่อนที่ปี ค.ศ. 1995 จะพลิกแพงเป็นรูปวงรีแล้วทับด้วยธงน้ำเงินครามขาว ตามด้วยตัวอักษร “DA” แล้วก็เอาชื่อเต็ม “Deportivo Alaves” ของสโมสรไปทั้งด้านบนและด้านล่างตามสัดส่วน ในปี ค.ศ. 2001 ถึงปัจจุบันก็ใช้ทรงเดิมกับปี ค.ศ. 1995 แต่เพียงลดความเข้มของสีลง ( Updated : 24-4-2020 )

Top Goal Player